“อยู่ดีด้วยกันได้”
ระยะนี้ เรามักจะได้ยินเรื่องคู่รัก คู่แต่งงาน หย่ากัน เลิกกัน บ่อยมากๆ บางคู่อยู่กันมาสิบกว่าปี จนลูกโต ก็ยังเลิกกันได้ บางคนอยากเลิกมานานแล้ว แต่รอลูกโตก่อน พอลูกโต ก็เลิกกัน คนเหล่านี้ มีทั้งดารา ไฮโซ คนร่ำคนรวยมีชื่อเสียงกันทั้งนั้น ข้าพเจ้าเข้าไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต ได้พบการจัดอันดับคำบอกเลิก สิบอันดับยอดฮิต 10 อันดับคำบอกเลิก ยอดฮิต
อันดับ 1 เธอดีเกินไป
อันดับ 2 เราเข้ากันไม่ได้
อันดับ 3 ไม่มีเวลาให้
อันดับ 4 เธอน่าเบื่อ
อันดับ 5 เธอน่ารำคาญ
อันดับ 6 อยากอยู่คนเดียว หมด Passion
อันดับ 7 ช่องว่างระหว่างวัย
อันดับ 8 เธอยังไม่ใช่สำหรับเรา
อันดับ 9 ห่างกันสักพัก
อันดับ 10 เราเลิกกันเถอะ
นื่คือ คู่รัก และบางคนก็เป็นถึงสามีภรรยากันแล้ว มันเลิกกันได้ง่ายๆจริงนะ
ในโลกนี้ มีคำว่า รัก สี่คำ สองคำแรก คือคำว่า รักอย่างพ่อแม่ลูก ซึ่งต้องมีวันจากกันในวันหนึ่ง ลูกต้องจากพ่อแม่ไปผูกพันกับคู่ของเขา คือรักอย่างหนุ่มสาว และรักอย่างหนุ่มสาว ในยุคนี้ ก็จะพบกับคำว่าบอกเลิกยอดฮิต อย่างที่ได้อ่านให้ฟังไปก่อนหน้านี้ ส่วนอีกสองคำ เป็นคำยอดฮิตในพระคัมภีร์ ได้แก่ รักอย่างพี่น้อง และรักของพระเจ้า
รักอย่างพี่น้อง ในครอบครัวเดียวกัน ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด ให้โกรธกันยังไง แยกกันอยู่ยังไง น่าเบื่อขนาดไหน น่ารำคาญจริง ความเป็นสายเลือดเดียวกัน ก็ยังอยู่ ยิ่งมี ดีเอ็นเอ จากพ่อแม่เดียวกัน ยังไง ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน รักอย่างพี่น้อง ที่พระคัมภีร์ใหม่ใช้สำหรับสังคมคริสตจักร สำหรับผู้เชื่อที่มาจากต่างครอบครัวเดียวกัน ยากนัก ที่จะรักกันอย่างพี่น้องท้องเดียวกันได้ ยกเว้น การบังเกิดใหม่ในพระคริสต์ โดยมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ผูกพันเราไว้ด้วยวิญญาณเดียวกัน ดีเอ็นเอในทางพระวิญญาณ และต้องอาศัยรักของพระเจ้าเท่านั้น ที่จะทำให้เรา”อยู่ดีด้วยกันได้”
รักของพระเจ้า เราไม่มี เราต้องรับจากพระเจ้าโดยตรง เท่านั้น เป็นประสบการณ์ความรักที่เรามีกับพระเจ้า
พระเยซูใช้คำว่า “อยู่ดีด้วยกันได้” กับภาพของของสองอย่าง ที่อยู่ด้วยกันไม่ได้
มาระโก 2:21-22 21 ไม่มีผู้ใดเอาท่อนผ้าทอใหม่มาปะเสื้อเก่า ถ้าทำอย่างนั้น ท่อนผ้าทอใหม่ที่ปะเข้านั้น เมื่อหดจะทำให้เสื้อเก่าขาดกว้างออกไปอีก22 และไม่มีผู้ใดเอาน้ำองุ่นหมักใหม่มาใส่ไว้ในถุงหนังเก่า ถ้าทำอย่างนั้นน้ำองุ่นหมักใหม่จะทำให้ถุงเก่านั้นขาดไป ทั้งน้ำองุ่นและถุงก็จะเสียไปด้วยกัน แต่น้ำองุ่นหมักใหม่นั้นต้องใส่ไว้ในถุงหนังใหม่”
ของอย่างแรก คือผ้า เก่ากับผ้าใหม่ อยู่ด้วยกันไม่ได้
21 ไม่มีผู้ใดเอาท่อนผ้าทอใหม่มาปะเสื้อเก่า ถ้าทำอย่างนั้น ท่อนผ้าทอใหม่ที่ปะเข้านั้น เมื่อหดจะทำให้เสื้อเก่าขาดกว้างออกไปอีก
การอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถูกใช้กับผ้า ที่เกิดอาการฉีกขาด ผ้าใหม่ จะหด และฉีกผ้าเก่าให้ขาด เราอาจจะมองว่า เป็นเพราะผ้าใหม่ กับผ้าเก่ามีความต่างกันที่กำลัง และแรงดึง แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ความเก่าหรือใหม่ แต่ประเด็นสำคัญคือ ความทนทาน หรือที่เราเรียกว่า ความอดทน วันนี้ ได้เขียนสูจิบัตรเรื่องความอดทน ที่พระคัมภีร์มักจะเน้น และมีบทเรียนมากมายให้คนของพระเจ้ามีความอดทน และอดทนให้มากที่สุด ถึงทีสุด
มัทธิว 24:13 13 แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด
ข้อพระคัมภีร์มัทธิวตอนนี้ คือคำตรัสของพระเยซูคริสต์ในมัทธิวบทที่ 24 ที่กล่าวถึง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย
มัทธิว 24:4-13 4 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านให้หลง5 ด้วยว่าจะมีหลายคนมา ต่างอ้างนามของเราว่าตัวเขาเป็นพระคริสต์ เขาจะให้คนเป็นอันมากหลงไป6 ท่านทั้งหลายจะได้ยินเสียงสงคราม และข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยุคยังไม่มาถึง7 เพราะ ประชาชาติต่อประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อราชอาณาจักรจะต่อสู้กัน ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ 8 เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เป็นขั้นแรกแห่งความทุกข์ลำบาก ซึ่งต้องมีมาก่อนกำเนิดยุคใหม่
9 “ในเวลานั้นเขาจะอายัดท่านทั้งหลายไว้ ให้ทนทุกข์ลำบากและฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่างๆ จะเกลียดชังพวกท่าน เพราะความจงรักภักดีของท่านที่มีต่อเรา10 คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไป และอายัดกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกันด้วย11 ผู้เผยพระวจนะปลอมหลายคนจะเกิดมีขึ้น และล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป12 ความรักของคนส่วนมากจะเยือกเย็นลง เพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป13 แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด
มัทธิว 24:13 13 แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด
หากย้อนกลับไปทีละข้อของหนังสือมัทธิว เราจะพบว่า การอยู่ด้วยกันดีได้ เป็นสิ่งที่ยากมาก เริ่มจาก
1.ความรักที่เยือกเย็นลง
12 ความรักของคนส่วนมากจะเยือกเย็นลง เพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป
อย่าแปลกใจที่คนดูดี (น่าจะดี) แต่โหดเหี้ยม ใจร้าย ได้อย่างที่คิดไม่ถึง พระเยซูจึงตรัสว่า เราจะรู้จักต้นไม้นั้นด้วยผลของมัน ต้นไม้ดี ก็ให้ผลดี ให้ผลเลวไม่ได้ คนต้นจะกลับไปเป็นปลาย ปลายจะกลับมาเป็นต้น ก็ตอนจบของทุกอย่างแล้ว
2.ไม่รู้จะเชื่อใครดี
11 ผู้เผยพระวจนะปลอมหลายคนจะเกิดมีขึ้น และล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
พระคัมภีร์เตือนให้เราจงพิสูจน์ทุกอย่าง สิ่งที่ดี ให้ยึดไว้ จริงก็ว่าจริง นอกนั้น มาจากความชั่วร้ายทั้งสิ้น
อย่าแปลกใจที่จะมีคนที่ได้ชื่อว่าผู้รับใช้ แต่ล่อลวงคนให้หลงไปได้ ด้วยคำโกหก
3.เกลียดชังซึ่งกันและกัน
10 คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไป และอายัดกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกันด้วย
ไม่ต้องแปลกใจที่คนเคยรักกันมากๆ จะกลับมาเกลียดกันมากๆ จงมีสติ สัมปชัญญะตลอดเวลา พระคัมภีร์เตือนว่า ทุกวันนี้ คือกาลที่ชั่ว คือเวลาที่คนจะทำชั่วมากกว่าทำดี เกลียดกันมากกว่ารักกัน ต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลาอย่าไปติดกับดักความเกลียดชัง แต่จงตกหลุมรักกันและกันให้มาก
4.ถูกปฏิเสธจากคนกลุ่มใหญ่
9 “ในเวลานั้นเขาจะอายัดท่านทั้งหลายไว้ ให้ทนทุกข์ลำบากและฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่างๆ จะเกลียดชังพวกท่าน เพราะความจงรักภักดีของท่านที่มีต่อเรา
ไม่น่าแปลกใจที่เราจะรู้จักคำว่า โดดเดี่ยว และจะคุ้นเคยกับคำนี้เรื่อยๆ จงเรียนรู้เวลาแห่งการที่จะอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว ฝึกการเฝ้าเดี่ยว ปฏิเสธการอยู่ร่วมกันบ้าง แต่ไม่ใช่ใช้คำบอกเลิกยอดฮิตทั้งหลาย
5.ปัญหาปากท้องจะเป็นระดับโลก
7 เพราะ ประชาชาติต่อประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อราชอาณาจักรจะต่อสู้กัน ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ
ทุกคนต่างรับผลกระทบกันหมด อย่าคิดว่า เกิดกับตัวเองเท่านั้น ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า จงเตรียมตัวไว้รับกับสถานการณ์ทุกอย่าง อย่ามองแต่โลกสวยอย่างเดียว
ห้าเหตุผลที่พระเยซูยกตัวอย่างมา กำลังเกิดขึ้นจริงในยุคปัจจุบันของเรา เป็นเงื่อนไข และอุปสรรคต่อการ การอยู่ดีด้วยกันได้ เป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้น ถ้าเราอดทนไม่ได้ ทุกวันนี้ เราได้เห็นความเปราะบางของคน อดทนน้อย และน้อยลงไปเรื่อยๆ
ภาพสุดท้ายที่พระเยซูทรงยกตัวอย่างเรื่อง ของสองสิ่งที่เข้ากันไม่ได้ คือ เก่ากับใหม่ นั่นคือ ถุงหนังเก่า ไม่สามารถรับน้ำองุ่นใหม่ได้ ถุงหนังเก่า หมายถึงชีวิตเก่า ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงใหม่ ไม่สามารถจะทนต่อน้ำองุ่นใหม่
มาระโก 2:22 22 และไม่มีผู้ใดเอาน้ำองุ่นหมักใหม่มาใส่ไว้ในถุงหนังเก่า ถ้าทำอย่างนั้นน้ำองุ่นหมักใหม่จะทำให้ถุงเก่านั้นขาดไป ทั้งน้ำองุ่นและถุงก็จะเสียไปด้วยกัน แต่น้ำองุ่นหมักใหม่นั้นต้องใส่ไว้ในถุงหนังใหม่”
ถุงหนังเก่า หรือชีวิตเก่า น้ำองุ่นใหม่ คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่มีคุณภาพสูง และคุณภาพนี้ ไม่เคยลดลง มีแต่จะเพิ่มคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตเก่าไม่สามารถจะไปด้วยกันกับมาตรฐานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในหนังสือกิจการ ที่คริสตจักรยุคแรกเกิดขึ้น สาวกหรือผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์จะถูกถามว่า รับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วหรือยัง และบันทึกเกี่ยวกับคนที่รับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว มีประสบการณ์กับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มีถ้อยคำ มีความอดทน กล้าหาญ มากขึ้น ยิ่งมีการข่มเหงมาก ยิ่งเกิดผลมาก
การอยู่ดีด้วยกันได้ เกิดจากชีวิตใหม่ที่รับจากการรับ และเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ หนังสือกิจการเป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำให้คริสตจักรสามารถทานทนต่อแรงกดดัน การข่มเหงจากสังคมได้
วันนี้ บทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังเคลื่อนไหวในคริสเตียนผู้เชื่อไปทั่วโลก ทำให้การ “อยู่ดีด้วยกันได้” เกิดขึ้น แม้ในประเทศที่มีการข่มเหงมากที่สุดหลายประเทศ แต่คริสตจักรไม่ตาย ยังอยู่ดีด้วยกันได้
คริสตจักรไทย กำลังจะตาย หรือกำลังอยู่ดีด้วยกันได้ ด้วยอะไร? คำตอบอยู่ที่ ความอดทนนานที่เรามีต่อกัน…ซึ่งเป็นนิยามของความรัก คำแรก รักนั้น ก็อดทนนาน
คนเรามักจะพูดว่า ชั้นแทบจะทนคนนั้น คนนี้ ไม่ไหวแล้ว อยากวิ่งหนี เราเคยมองกลับมาที่ตัวเราไม๊ว่า มีใครบางคนที่ต้องอดทนต่อเราขนาดไหน ที่เขาไม่วิ่งหนี เพราะเขาอาจกำลังอดทนเราอยู่ ก็เป็นได้ การอยู่ดีด้วยกันได้ ต้องอดทน
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะฝึกเราให้อดทน พระองค์จะทำให้เราระลึกถึงคำสอนของพระเยซู ที่ให้เราอดทนทั้งสิ้น ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูคือผู้ที่กำลังใช้ความอดทน ฝึกความอดทนของตนเอง พระเยซูจึงตรัสว่า คนๆนั้น จะเป็นเหมือนบ้านที่สร้างไว้บนศิลา เมื่อพายุพัดมา ก็สามารถต้านแรงลม แรงปะทะ บ้านนั้นก็ยังคงอยู่ไม่พังทลายลง
ฮีบรู 12:27-28 27 และพระดำรัสที่ตรัสไว้ว่า อีกครั้งหนึ่ง นั้น แสดงว่าสิ่งที่หวั่นไหวนั้นจะถูกกำจัดเสีย เหมือนกับสิ่งที่ทรงสร้างให้มีขึ้น เพื่อให้สิ่งที่ไม่หวั่นไหวคงเหลืออยู่28 เหตุฉะนั้นครั้นเราได้แผ่นดินที่ไม่หวั่นไหวมาแล้ว ก็ให้เราขอบพระคุณพระเจ้า เพื่อเราจะได้ปฏิบัติพระเจ้าตามชอบพระทัยของพระองค์ ด้วยความเคารพและยำเกรง
พระคัมภีร์ได้บอกเราถึงความจริงของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา เพื่อจะเขย่าความเชื่อ เขย่าความอดทนของเราว่าจะทนได้แค่ไหน และเราได้รับแผ่นดินที่ไม่หวั่นไหว คืออาณาจักรของพระเยซูคริสต์เจ้ามาอยู่กับเราแล้ว
วันนี้ บางคนอาจกำลังเผชิญกับมรสุมชีวิต พายุที่พัดมาปะทะ ทำให้สะเทือน ต้องใช้ความอดทน เพื่ออะไร ก็เพื่อจะ “อยู่ดีด้วยกันได้” คือการไม่ล้มกระดาน ไม่วิ่งหนี ไม่พังบ้าน ไม่ถูกทำลาย ด้วยตัวของตนเอง
ให้เราพูดกับคนข้างๆ ว่า “เพื่อเราจะอยู่ดีด้วยก้นได้” การพูดว่ามีปัญหา ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ แต่ก็ไม่ใช่พูดแต่คำว่ามีปัญหาๆๆๆ การมีปัญหา แล้วเราอยู่ดีด้วยกันได้ ต่างหากคือสิ่งที่ชาวโลกจะมองว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และมันเกิดขึ้นที่เดียว คือที่คริสตจักร ของพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน