“ชีวิตที่เกิดผลในพระคริสต์..หยุดการทดลองของเงินทอง”

นกสองหัว แปลว่า เดี๋ยวเข้ากับฝั่งโน้น แล้วก็มาเข้ากับฝั่งนี้ ดูเหมือนเป็นมิตรได้กับทุกฝ่าย  มีสำนวนของนักการเมืองว่า ไม่มีมิตรและศัตรูถาวร แปลว่า  พร้อมเปลี่ยนข้างได้เสมอ อยู่ที่ผลประโยชน์ที่ตกลงกันได้ หรือไม่ได้ ถ้าตกลงได้จากศัตรูก็จะเปลี่ยนเป็นมิตรทันที แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ จากมิตรก็จะเปลี่ยนเป็นศัตรูทันทีเช่นกัน ในพระคัมภีร์มีการใช้คำว่า ปฏิปักษ์ เพื่อแสดงว่าอยู่กันคนละฝ่าย มัทธิว 12:30 30 ผู้ใด​ไม่​อยู่​ฝ่าย​เรา​ก็​เป็น​ปฏิปักษ์​ต่อ​เรา และ​ผู้ใด​ไม่​รวบรวม​ไว้​กับ​เรา ​ก็​เป็น​ผู้กระทำ​ให้​กระจัด​กระจาย​ไป​ พระเยซูคริสต์เจ้าได้ตรัสคำนี้แสดงถึงผู้ที่ติดตามพระองค์ไม่สามารถเป็นนกสองหัว หรือจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา  เมื่อวานอยู่ฝ่ายพระเจ้า วันนี้อยู่ฝ่ายมาร แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับมาอยู่ฝ่ายพระเจ้าอีก สำนวนว่า ​ผู้ใด​ไม่​รวบรวม​ไว้​กับ​เรา ​ก็​เป็น​ผู้กระทำ​ให้​กระจัด​กระจาย​ไป คำว่า รวบรวม  หมายถึง  ทำให้คนเข้าใกล้พระเจ้า พระเยซูได้สอนวิธีที่จะทำให้คนเข้าใกล้พระเจ้าว่า มัทธิว 5:16 16 ท่าน​ทั้ง​หลาย​ก็​เหมือนกับ​ตะเกียง จง​ส่อง​สว่าง​แก่​คน​ทั้ง​ปวง เพื่อ​ว่า​เมื่อ​เขา​ได้​เห็น​ความ​ดี​ที่​ท่าน​ทำ เขา​จะ​ได้​สรรเสริญ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน ผู้​ทรง​อยู่​ใน​สวรรค์ มารมีชื่อเรียกว่า ปฏิปักษ์ แปลว่า ผู้ขัดขวาง อยู่คนละฝ่าย ดังนั้นวิธีการของมารก็คือ ทำให้กระจัดกระจายไป  คือ การทำให้คนห่างไกลจากพระเจ้า ในอดีต มารพยายามใช้ทุกวิธีที่จะทำให้คนห่างไกลจากพระเจ้า ด้วยการปฏิเสธพระเจ้า เราจะเห็นได้จากเรื่องราวที่มารมาทดลองพระเยซูสามเรื่อง ได้แก่ เรื่องความหิว เรื่องความไว้วางใจในพระเจ้า และสุดท้ายก็คือเรื่องเงินทอง แต่มารก็ล้มเหลวไป พระเยซูต้องเดินเข้าสู่การทดลองครั้งสุดท้ายก็คือการข่มเหงบนไม้กางเขน และพระองค์ก็ชนะด้วยการตายบนไม้กางเขนและหลังจากนั้นสามวัน พระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตาย การข่มเหงยังคงต่อเนื่องมาถึงศิษย์ของพระเยซู แต่กลายเป็นว่า ยิ่งข่มเหง ศิษย์ยิ่งทวีมากขึ้น ยิ่งเชื่อมากขึ้น ยิ่งรักกันมากขึ้น และมารก็ได้ใช้วิธีเดิมๆ นั่นคือเรื่องของเงินทอง พระคัมภีร์ได้บันทึกว่าคริสตจักรยุคแรกมีศิษย์ที่พ่ายแพ้ต่อการทดลองเรื่องเงินทอง แต่ศิษย์ที่มีชีวิตที่เกิดผลในพระคริสต์หยุดการทดลองเรื่องเงินทองได้อย่างไร การศึกษาพระคัมภีร์ด้วยกันของเราในเช้าวันนี้ จะทำให้เรามีแนวทางการหยุดการทดลองเรื่องเงินทองในชีวิตของเรา กิจการ 5:1-11  1 แต่​มี​ชาย​คน​หนึ่ง ชื่อ​อา​นาเนีย​กับ​ภรรยา​ชื่อสัปฟี​รา ได้​ขาย​ที่ดิน​ของ​ตน​2 และ​เงิน​ค่า​ที่ดิน​ส่วน​หนึ่ง​เขา​ยัก​เ​ก็​บ​ไว้ ภรรยา​ของ​เขา​ก็​รู้​ด้วย และ​อีก​ส่วน​หนึ่ง​เขา​นำมา​วาง​ไว้​ที่​เท้า​ของ​อัครทูต​3 ฝ่าย​เปโตร​จึง​ถาม​ว่า “​อานาเนีย​ เหตุ​ไฉน​ซาตาน​จึง​ทำ​ให้​ใจ​ของ​เจ้า​เต็ม​ไป​ด้วย​การ​มุสา​ต่อ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ และ​ทำ​ให้​เจ้า​เ​ก็​บ​ค่า​ที่ดิน​ส่วน​หนึ่ง​ไว้​4 เมื่อ​ที่ดิน​ยัง​อยู่​ก็​เป็น​ของ​เจ้า​มิใช่​หรือ เมื่อ​ขาย​แล้ว​เงิน​ก็​ยัง​อยู่​ใน​อำนาจ​ของ​เจ้า​มิใช่​หรือ มี​เหตุ​อะไร​เกิดขึ้น​ให้​เจ้า​คิด​ใน​ใจ​เช่นนั้น​เล่า เจ้า​มิได้​มุสา​ต่อ​มนุษย์​แต่​ได้​มุสา​ต่อ​พระ​เจ้า”5 เมื่อ​อา​นาเนีย​ได้​ยิน​คำ​เหล่า​นั้น ​ก็​ล้ม​ลง​ตาย และ​เมื่อ​คน​ทั้ง​ปวง​ทราบ​เรื่อง​ก็​พา​กัน​สะดุ้ง​ตกใจ​กลัว​อย่าง​ยิ่ง​6 พวก​คน​หนุ่ม​ก็​ลุก​ขึ้น​ห่อ​ศพ​เขา​ไว้​แล้ว​หาม​เอา​ไป​ฝัง 7 หลังจาก​นั้น​ประมาณ​สาม​ชั่วโมง ภรรยา​ของ​เขา​ยัง​ไม่​ทราบ​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​จึง​เข้า​ไป​8 ฝ่าย​เปโตร​ถาม​นาง​ว่า “เจ้า​ขาย​ที่ดิน​ได้​ราคา​เท่านั้น​หรือ​จง​บอก​เรา​เถิด” หญิง​นั้น​จึง​ตอบ​ว่า “ได้​เท่านั้น​เจ้า​ค่ะ”9 ​เปโตร​จึง​ถาม​นาง​ว่า “ไฉน​เจ้า​ทั้ง​สอง​ได้​พร้อม​ใจ​กัน​ทดลอง​พระ​วิญญาณ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เล่า จง​ดู​เถิด เท้า​ของ​พวก​คน​ที่​ฝัง​ศพ​สามี​ของ​เจ้า​ก็​อยู่​ที่​ประตู และ​เขา​จะ​หาม​ศพ​ของ​เจ้า​ออกไป​ด้วย”10 ​ใน​ทันใด​นั้น​นาง​ก็​ล้ม​ลง​ตาย​แทบ​เท้า​ของ​เปโตร และ​พวก​คน​หนุ่ม​ได้​เข้า​มา​เห็น​ว่า​หญิง​นั้น​ตาย​แล้ว จึง​ได้​หาม​ศพ​ออกไป​ฝัง​ไว้​ข้าง​สามี​ของ​นาง​11 ความ​เกรง​กลัว​อย่าง​ยิ่ง​เกิดขึ้น​ใน​คริสตจักร และ​ใน​หมู่​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ได้​ยิน​เหตุการณ์​นั้น​   หลังจากคริสตจักรยุคแรกมีพวกศิษย์ทวีมากขึ้น  ก็ได้เกิดเหตุการณ์ของใจกล้าหาญในการกล่าวพระวจนะและเป็นพยานถึงการฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ และยังมีเหตุการณ์ต่อเนื่องของความเป็นหัวใจเดียววิญญาณเดียว มีการเสียสละเพื่อส่วนรวม มีการแก้ปัญหาความขัดสนจนผู้เชื่อทุกคนไม่มีใครขัดสน  อันเนื่องมาจากแบบอย่างของการให้ที่หนุนน้ำใจผู้อื่น อย่างบารนาบัส ผู้มีคุณลักษณะที่ดีจนกลายมาเป็นชื่อเรียกที่แปลว่า ลูกแห่งการหนุนน้ำใจ ทำให้คนอื่นเอาเยี่ยงอย่างการเกิดผลในพระคริสต์ท่ามกลางพวกศิษย์ของพระเยซู สิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมาถึงตอนนี้ เราได้เห็นการแทรกแซงของมารซาตาน เพื่อจะหยุดพัฒนาการของคริสตจักร ผ่านสามีภรรยาคู่หนึ่ง 1 แต่​มี​ชาย​คน​หนึ่ง ชื่อ​อา​นาเนีย​กับ​ภรรยา​ชื่อสัปฟี​รา ได้​ขาย​ที่ดิน​ของ​ตน อานาเนียและสัปฟีราได้เดินตามแบบของบารนาบัส ด้วยการขายที่ดินของตน ที่นี่เราได้เห็นความศรัทธาของสามีภรรยาคู่นี้ ความตั้งใจที่ดี การเริ่มต้นที่ดี เป็นสิ่งที่ดี แต่ว่า พระคัมภีร์ได้บันทึกต่อว่า 2 และ​เงิน​ค่า​ที่ดิน​ส่วน​หนึ่ง​เขา​ยัก​เ​ก็​บ​ไว้ ภรรยา​ของ​เขา​ก็​รู้​ด้วย และ​อีก​ส่วน​หนึ่ง​เขา​นำมา​วาง​ไว้​ที่​เท้า​ของ​อัครทูต  มีการสมรู้ร่วมคิดกันทำบาปด้วยการโกหก รากศัพท์ภาษากรีกคำว่า มุสา แปลว่า พยายามหลอกด้วยความเชื่อเทียมเท็จ ความเชื่อเทียมเท็จ คือการไม่ได้เชื่อจริง แต่ทำเป็นเชื่อเหมือนจริง แต่ความเชื่อเทียมเท็จไม่สามารถหลุดรอดสายตาของคนที่เกิดผลในพระคริสต์อย่างเปโตรไปได้  3 ฝ่าย​เปโตร​จึง​ถาม​ว่า “​อานาเนีย​ เหตุ​ไฉน​ซาตาน​จึง​ทำ​ให้​ใจ​ของ​เจ้า​เต็ม​ไป​ด้วย​การ​มุสา​ต่อ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ และ​ทำ​ให้​เจ้า​เ​ก็​บ​ค่า​ที่ดิน​ส่วน​หนึ่ง​ไว้​4 เมื่อ​ที่ดิน​ยัง​อยู่​ก็​เป็น​ของ​เจ้า​มิใช่​หรือ เมื่อ​ขาย​แล้ว​เงิน​ก็​ยัง​อยู่​ใน​อำนาจ​ของ​เจ้า​มิใช่​หรือ มี​เหตุ​อะไร​เกิดขึ้น​ให้​เจ้า​คิด​ใน​ใจ​เช่นนั้น​เล่า เจ้า​มิได้​มุสา​ต่อ​มนุษย์​แต่​ได้​มุสา​ต่อ​พระ​เจ้า”   พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำงานร่วมกับคนที่เกิดผลในพระคริสต์  เปโตรผู้กำลังเกิดผลในพระคริสต์ ไวมากว่ามารกำลังใช้อานาเนียให้โกหก และพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เปโตรกำลังเต็มล้นนั้น ทำให้เปโตรกล่าวถ้อยคำที่เป็นของประทานแห่งความรู้ คือรู้ในสิ่งที่มนุษย์ปิดบังซ่อนเร้น แต่ไม่สามารถปิดบังพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้  มารต้องการจะทำให้คริสตจักรติดเชื้อแห่งการโกหก ซึ่งเป็นบาปแรกที่มนุษย์ติดกับดักวิธีการของมารตั้งแต่สมัยของอาดัมและเอวา  เมื่อมนุษย์คู่แรกล้มลงในความบาปโดยการไม่เชื่อฟัง กินผลไม้ต้องห้าม จึงทำให้ทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันซ่อนตัวจากพระเจ้า และมนุษย์คู่แรกก็ถูกขับออกจาสวนเอเดน สวนเอเดนถูกปิดตาย ปฐมกาล 3:22ข,24   ….บัดนี้ อย่า​ปล่อย​ให้​เขา​ยื่น​มือ​ไป​หยิบ​ผล​ต้นไม้​แห่ง​ชีวิตมา​กิน แล้ว​มี​อายุ​ยืน​ชั่ว​นิรันดร์”….24 ​พระ​องค์​ทรง​ไล่​ชาย​นั้น​ออกไป และ​ทรง​ตั้ง​พวกเค​รูบ​ ทางด้าน​ทิศ​ตะวันออก​แห่ง​สวน​เอเดน และ​ตั้ง​กระบี่​เพลิง​อัน​หนึ่ง​ที่​หมุน​ได้​รอบ​ทิศ​ไว้​เฝ้า​ทาง​ที่​จะ​เข้า​ไปสู่​ต้นไม้​แห่ง​ชีวิต​นั้น​ การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ เพื่อมาทำบทบาทของอาดัมอีกครั้ง 1โครินธ์ 15:22,45 22 เพราะ​ว่า​คน​ทั้ง​ปวง​ต้อง​ตาย​เกี่ยวเนื่อง​กับ​อาดัม​ฉัน​ใด คน​ทั้ง​ปวง​ก็​จะ​กลับ​ได้​ชีวิต​เกี่ยวเนื่อง​กับ​พระ​คริสต์​ฉัน​นั้น​…45 ดัง​ที่​เขียน​ไว้​ว่า “มนุษย์  คน​แรก​คือ​อา​ดัม จึง​เป็น​ผู้​มี​ชีวิต”  แต่​อา​ดัม​สุดท้าย​นั้น​เป็น​วิญ​ญาณ​ผู้​ประ​ทาน​ชีวิต พระคัมภีร์ได้กล่าวถึง พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหตุให้สวนเอเดนใหม่ถูกใส่ไว้ในจิตใจของผู้ที่เป็นศิษย์ของพระองค์ ยอห์น 6:68 68 ซีโมน​เปโตร​ทูล​ตอบ​พระ​องค์​ว่า “​พระ​องค์​เจ้า​ข้า พวก​ข้า​พระ​องค์​จะ​จาก​ไป​หา​ผู้ใด​เล่า ​พระ​องค์​มี​ถ้อยคำ​ซึ่ง​ให้​มี​ชีวิต​นิรันดร์​ เปโตรได้ยืนยันถึงสวนเอเดนภายในได้เกิดกับตัวเขาเอง เมื่อสวนเอเดนมาอยู่ในชีวิตของผู้เชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์ แล้วผลไม้ต้องห้ามแบบใหม่คืออะไร หากเราดูที่คำสอนของพระเยซูเรื่องการไม่เชื่อฟังแบบใหม่ที่ศิษย์พระเยซู  เราจะพบได้จากคำสอนใน มัทธิว 6:24 24 “ไม่​มี​ผู้ใด​เป็น​ข้า​สอง​เจ้าบ่าว​สอง​นาย​ได้ เพราะ​ว่า​จะ​ชัง​นาย​ข้าง​หนึ่ง และ​จะ​รัก​นาย​อีก​ข้าง​หนึ่ง หรือ​จะ​นับ​ถือ​นาย​ฝ่าย​หนึ่ง และ​จะ​ดู​หมิ่น​นาย​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง ท่าน​จะ​ปฏิบัติ​พระ​เจ้า​และ​จะ​ปฏิบัติ​เงิน​ทอง​พร้อม​กัน​ไม่ได้​ นี่คือการไม่เชื่อฟังที่จะเกิดขึ้นในสวนเอเดนเวอร์ชั่นใหม่ เงินทองคือผลไม้ต้องห้าม คนมากมายในยุคนี้พยายามแสวงหาเงินทอง เพราะเงินทองจะทำให้เขาเป็นเหมือนพระเจ้า  จนมีสำนวนว่า เงินทองบันดาลทุกสิ่งได้   ข้าพเจ้าเคยไปฟังคุณหญิงจารุวรรณ เมนทกา ในขณะนั้นท่านเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน  เป็นพยานว่า เขาได้รับข้อเสนอจากนักการเมืองที่มีอำนาจมากในเวลานั้นบอกว่า ต้องการอะไร เขาสามารถให้ได้ทุกอย่าง ตำแหน่ง เงินทอง เกียรติ เพราะเขามีเงินมากจริงๆ และพระเจ้าก็ทรงให้คุณหญิงจารุวรรณเปิดพระคัมภีร์เจอข้อความว่า ถ้าเจ้าข้ามธรณีประตูออกไปจากบ้านเมื่อไร  วงศ์วานของเจ้าจะดูหมิ่นเจ้า (คือนักการเมืองคนนั้นนัดให้คุณหญิงจารุวรรณไปพบเขาที่บ้าน) คุณหญิงหยุดการทดลองนั้นด้วยการเชื่อฟังพระเจ้า การทดลองเรื่องเงินทองเกิดขึ้นมานานแล้ว  และคริสตจักรยุคแรกก็ถูกทดลองครั้งแรกเรื่องนี้ด้วยสามีภรรยา อานาเนียและสัปฟีราผู้ติดกับดักของมาร มารได้หยอดความปรารถนาเรื่องเงินทองเข้าไปในจิตใจของสามีภรรยาคู่นี้ในสวนเอเดนเพิ่งเปิดใหม่ในจิตใจของเขา “​อานาเนีย​ เหตุ​ไฉน​ซาตาน​จึง​ทำ​ให้​ใจ​ของ​เจ้า​เต็ม​ไป​ด้วย​การ​มุสา​ต่อ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์… 5 เมื่อ​อา​นาเนีย​ได้​ยิน​คำ​เหล่า​นั้น ​ก็​ล้ม​ลง​ตาย…. ภรรยาของอานาเนียก็ตายด้วยอาการอย่างเดียวกัน คือล้มลงตาย ภาษากรีกตรงนี้แปลว่า สิ้นใจทันที หมอลูกาเป็นผู้บันทึกกิจการด้วยมุมมองของหมอ กำลังสื่อสารกับผู้อ่านว่า อาการของการสิ้นใจคือหัวใจหยุดเต้น ข้าพเจ้าได้เห็นคนตายที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ดูเหมือนยังหายใจ แต่ไม่มีชีพจรแล้ว นั่นคือสิ้นใจแล้ว หยุดการรับรู้แล้ว คริสตจักรยุคแรกเกิดผลอย่างต่อเนื่องได้ เพราะการหยุดวิธีของมารที่แทรกแซงเข้ามาในช่วงเวลาแห่งเงินทอง อย่างที่นักวิชาการทางพระคัมภีร์คาดการณ์ว่า การขายที่ดินในเวลานั้นอาจเป็นปีจูบิลี่ ปีแห่งการขายที่ดิน ซื้อที่ดิน จึงทำใหบางคนมีเงินมากเกินจากที่ปกติที่เคยมี และเป็นช่วงเวลาที่คริสตจักรกำลังขยายเพิ่มพูน มีทั้งคนที่ขัดสนและคนที่มีมากเกินกว่าที่เคยมี พระคัมภีร์จึงบันทึกในช่วงเวลานี้ว่าไม่มีใครขัดสนในท่ามกลางพวกศิษย์ของพระเยซู  และนี่คือจุดหนึ่งที่ต้องระวัง เพราะอาจเป็นช่องที่มารจะใช้วิธีการเกี่ยวกับเงินเข้ามาทำให้เกิดการสมรู้ร่วมคิด ซึ่งพระเยซูตรัสไว้ใน มัทธิว 6:3  3 ฝ่าย​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เมื่อ​ทำ​ทาน อย่า​ให้​มือ​ซ้าย​รู้​การ​ซึ่ง​มือ​ขวา​กระทำ​นั้น​พระเยซูกำลังหมายความว่า การสมรู้ร่วมคิดในยุคต่อมาจะเกิดขึ้นภายในตัวผู้เชื่อเอง ดังนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงให้บทเรียนแก่ผู้เชื่อในยุคแรก เรียกว่า ยาแรง และหยุดวิธีของมารอย่างได้ผล ทำให้ผู้เชื่อที่เกิดผลในยุคนั้น ไม่ประนีประนอม อ่อนข้อกับการล่อให้หลงด้วยเงินทองและไม่ลดความเข้มข้นในความเกรงกลัวพระเจ้า ด้วยการเตือนตัวเองเสมอว่า

1.เมื่อเงินเป็นนาย….จิตวิญญาณตาย   กิจการ 5:7-10

7 หลังจาก​นั้น​ประมาณ​สาม​ชั่วโมง ภรรยา​ของ​เขา​ยัง​ไม่​ทราบ​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​จึง​เข้า​ไป​8 ฝ่าย​เปโตร​ถาม​นาง​ว่า “เจ้า​ขาย​ที่ดิน​ได้​ราคา​เท่านั้น​หรือ​จง​บอก​เรา​เถิด” หญิง​นั้น​จึง​ตอบ​ว่า “ได้​เท่านั้น​เจ้า​ค่ะ”9 ​เปโตร​จึง​ถาม​นาง​ว่า “ไฉน​เจ้า​ทั้ง​สอง​ได้​พร้อม​ใจ​กัน​ทดลอง​พระ​วิญญาณ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เล่า จง​ดู​เถิด เท้า​ของ​พวก​คน​ที่​ฝัง​ศพ​สามี​ของ​เจ้า​ก็​อยู่​ที่​ประตู และ​เขา​จะ​หาม​ศพ​ของ​เจ้า​ออกไป​ด้วย” 10 ​ใน​ทันใด​นั้น​นาง​ก็​ล้ม​ลง​ตาย​แทบ​เท้า​ของ​เปโตร และ​พวก​คน​หนุ่ม​ได้​เข้า​มา​เห็น​ว่า​หญิง​นั้น​ตาย​แล้ว จึง​ได้​หาม​ศพ​ออกไป​ฝัง​ไว้​ข้าง​สามี​ของ​นาง เป็นไปได้ที่นางสัปฟีรากำลังรอสามีที่เอาเงินเข้าไปให้กับเปโตรอยู่ภายนอก และไม่รู้ว่า สามีตายไปแล้ว เมื่อรอนานก็เลยเข้ามาตาม บันทึกก่อนหน้านี้บอกเราว่า อานาเนียตายไปก่อนที่เปโตรจะได้รับข้อมูลว่า ภรรยาของอานาเนียมีส่วนรู้เห็นเรื่องเงินนี้ด้วย  คำถามของเปโตรคือการเปิดทางให้นางสัปฟีราสำนึก แต่นางไม่สำนึก ยังคงโกหกต่อ 8 ฝ่าย​เปโตร​ถาม​นาง​ว่า “เจ้า​ขาย​ที่ดิน​ได้​ราคา​เท่านั้น​หรือ​จง​บอก​เรา​เถิด” หญิง​นั้น​จึง​ตอบ​ว่า “ได้​เท่านั้น​เจ้า​ค่ะ”คำตอบของสัปฟีราคือยืนยันว่าเธอยังอยากอยู่ในการทดลองเรื่องเงินทอง นี่ไม่ใช่วิสัยของคริสเตียน เพราะคริสเตียนคือคนที่เปลี่ยนแปลง ธรรมชาติของเราต้องเป็นอย่างแมว ไม่ใช่อย่างหมูอีกต่อไป แมวจะรีบทำความสะอาดเมื่อมันตกลงไปในโคลน  แต่หมูเมื่อตกลงไปในโคลน มันจะยังคลุกตัวมันกับโคลนนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ธรรมชาติใหม่ของคริสเตียนต้องรีบทำความสะอาดเมื่อเราตกลงไปในการล่อลวงให้ทำบาป ต้องรีบออกจากการล่อลวงนั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ยังคงใช้ชีวิตในการล่อลวงนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คำตอบของสัปฟีราคือการพาตัวเองกลับไปสู่สวนเอเดนเดิม ที่พระเจ้าไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปอีกปฐมกาล 3:24 24 ​พระ​องค์​ทรง​ไล่​ชาย​นั้น​ออกไป และ​ทรง​ตั้ง​พวกเค​รูบ​ ทางด้าน​ทิศ​ตะวันออก​แห่ง​สวน​เอเดน และ​ตั้ง​กระบี่​เพลิง​อัน​หนึ่ง​ที่​หมุน​ได้​รอบ​ทิศ​ไว้​เฝ้า​ทาง​ที่​จะ​เข้า​ไปสู่​ต้นไม้​แห่ง​ชีวิต​นั้น กระบี่เพลิงที่พร้อมประหารคนที่พยายามเข้าใกล้ต้นไม้แห่งชีวิต พระเยซูคริสต์ได้ตรัสว่า มัทธิว16:25-26 25 เพราะ​ว่า​ผู้ใด​ใคร่​จะ​เอา​ชีวิต​รอด ผู้​นั้น​จะ​เสียชีวิต แต่​ผู้ใด​จะ​เสียชีวิต​เพราะ​เห็น​แก่​เรา ผู้​นั้น​จะ​ได้​ชีวิต​รอด26 เพราะ​ถ้า​ผู้ใด​จะ​ได้​สิ่งของ​สิ้น​ทั้ง​โลก​แต่​ต้อง​เสียชีวิต​ของ​ตน ผู้​นั้น​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร หรือ​ผู้​นั้น​จะ​นำ​อะไร​ไป​แลก​เอา​ชีวิต​ของ​ตน​กลับคืน​มา​  สัปฟีราพยายามหลอกเปโตรด้วยความเชื่อเทียมเท็จ เพื่อปกปิดสิ่งที่ตนเองคิดว่าจะทำให้ชีวิตอยู่รอด หรือได้สิ่งของที่ตนปรารถนา โดยไม่รู้เลยว่า สามีที่สมรู้ร่วมคิดได้ตายไปแล้ว สำหรับหญิงที่สามีตายก็เป็นเหมือนชีวิตที่ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง และเมื่อนางยังไม่กลับใจ ชีวิตที่เหลือก็รอเวลาตาย 9 ​เปโตร​จึง​ถาม​นาง​ว่า “ไฉน​เจ้า​ทั้ง​สอง​ได้​พร้อม​ใจ​กัน​ทดลอง​พระ​วิญญาณ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เล่า จง​ดู​เถิด เท้า​ของ​พวก​คน​ที่​ฝัง​ศพ​สามี​ของ​เจ้า​ก็​อยู่​ที่​ประตู และ​เขา​จะ​หาม​ศพ​ของ​เจ้า​ออกไป​ด้วย” 10 ​ใน​ทันใด​นั้น​นาง​ก็​ล้ม​ลง​ตาย​แทบ​เท้า​ของ​เปโตร และ​พวก​คน​หนุ่ม​ได้​เข้า​มา​เห็น​ว่า​หญิง​นั้น​ตาย​แล้ว จึง​ได้​หาม​ศพ​ออกไป​ฝัง​ไว้​ข้าง​สามี​ของ​นาง  สิ่งที่เกิดขึ้นกับอานาเนียกับสัปฟีราอย่างรวดเร็ว สัปฟีรารอสามชั่วโมงแล้วก็พบกับความตายเหมือนกับอานาเนีย  ปัจจุบันเรามีสำนวนว่า กรรมติดจรวด คือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่คนที่มีเงินเป็นนายก็ไม่เห็นตายเร็วอย่างอานาเนียและสัปฟีรา นั่นเพราะเรามองแต่สิ่งที่อยู่ภายนอก แต่ภายในของคนที่มีเงินเป็นนายนั้น จิตวิญญาณได้ตายไปทันทีอย่างรวดเร็วแล้ว 2เปโตร 2:19ข-22  ….เพราะ​ว่า​มนุษย์​พ่าย​แพ้​แก่​สิ่ง​ใด เขา​ก็​เป็น​ทาส​ของ​สิ่ง​นั้น​20 เพราะ​ว่า​ถ้า​หลังจาก​ที่​เขา​พ้น​จาก​สรรพ​มลทิน​ของ​โลก​นี้​แล้ว ด้วย​การ​ที่​เขา​ได้​รู้จัก​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​ผู้ช่วย​ให้​รอด เขา​กลับ​เกี่ยว​ข้อง​และ​พ่าย​แพ้​แก่​การ​ชั่ว​นั้น​อีก บั้น​ปลาย​ของ​เขา​ก็​กลับ​ชั่ว​ร้าย​ยิ่ง​กว่า​ตอนต้น​21 เพราะ​ว่า​ถ้า​เขา​ไม่ได้​รู้จัก​ทาง​ชอบธรรม​นั้น​เสียเลย ​ก็​ยัง​จะ​ดีกว่า​ที่​เขา​ได้​รู้​แล้ว แต่​กลับ​หัน​หลัง​ให้​พระ​บัญญัติ​อัน​บริสุทธิ์​ที่​ได้​ทรง​โปรด​มอบ​ให้แก่​เขา​นั้น​22 พฤติกรรม​ได้​เกิด​กับ​เขา​ตาม​สุภาษิต​ซึ่ง​เป็น​ความ​จริง​ที่ว่า สุนัข​เลีย​กิน​สิ่ง​ที่​มัน​สำรอก​ออกมา  และ​สุกร​ที่​คน​ล้าง​มัน​ให้​สะอาด แล้ว​กลับ​ลุย​ลง​ไป​นอน​ใน​ปลัก​อีก  ​พระคัมภีร์ตอนนี้ได้กล่าวถึงการกลับไปเป็นทาสของสิ่งที่ตนเองพ่ายแพ้ ก็กลับเป็นทาสอีก หากเราพ่ายแพ้ต่อเงินทอง เราก็มีเงินทองเป็นนาย บางคนพ่ายแพ้ต่อเงินทองด้วยการขโมย บางคนด้วยการโกง บางคนด้วยการทำงานจนไม่ยอมหยุดพัก บางคนทิ้งสิ่งที่ควรรับผิดชอบเพื่อหาเงินทองก่อน บางคนไม่นมัสการพระเจ้าเพราะกลัวเสียเงินทอง เสียธุรกิจการค้า เป็นต้น จงดูอานาเนียและสัปฟีราเป็นบทเรียน เพื่อคริสตจักรจะไม่หยุดการพัฒนาในตัวของเรา  อย่าให้เอเดนใหม่กลับไปเป็นเอเดนของอาดัมคนเดิม ด้วยเครื่องเตือนใจว่า อย่าให้เงินเป็นนาย…จิตวิญญาณถึงตาย

2.การหยุดทดลองของเงินเป็นภูมิคุ้มกัน  กิจการ 5:5ข,11

.…และ​เมื่อ​คน​ทั้ง​ปวง​ทราบ​เรื่อง​ก็​พา​กัน​สะดุ้ง​ตกใจ​กลัว​อย่าง​ยิ่ง…..11 ความ​เกรง​กลัว​อย่าง​ยิ่ง​เกิดขึ้น​ใน​คริสตจักร และ​ใน​หมู่​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ได้​ยิน​เหตุการณ์​นั้น​ คริสตจักรยุคแรกทวีขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดชงัก เพราะมีภูมิคุ้มกันที่ดี คือความเกรงกลัวพระเจ้า ภูมิคุ้มกัน สำหรับร่างกาย คือการป้องกันเราให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ จากความเจ็บป่วยที่ทำให้เราอ่อนแอและถึงตายได้  เช่นเดียวกัน คริสตจักรยุคแรกเกิดผลด้วยความแข็งแรง ไม่ติดเชื้อง่าย ไม่ป่วยง่าย เพราะมีภูมิคุ้มกันที่ดี แม้ครั้งแรกในการตายของอานาเนียทำให้คนมากมายเกิดความกลัวแบบสันชาตญาณแห่งความกลัว ​….และ​เมื่อ​คน​ทั้ง​ปวง​ทราบ​เรื่อง​ก็​พา​กัน​สะดุ้ง​ตกใจ​กลัว​อย่าง​ยิ่ง…..ที่นี่ ภาษากรีกคำว่า Great fear แปลว่า กลัวอย่างยิ่ง คือกลัวมาก ครั้งแรกเมื่อผู้คนได้มีประสบการณ์ทำให้กลัวจะไม่ทันตั้งตัว ภาษาไทยใช้คำว่า สะดุ้งตกใจ แต่เมื่อเจอกับเหตุการณ์ซ้ำอีกในครั้งสอง คราวนี้ไม่สะดุ้งตกใจ แต่ความกลัวยังคงมากอยู่ และเริ่มตระหนักแล้วว่า อย่าทำเป็นเล่นๆกับความเชื่อแบบเทียมเท็จ เหมือนอานาเนียและสัปฟีรา  ความกลัวทำให้เราไม่ประมาท และระมัดระวังในการดำเนินชีวิต  ยิ่งอะไรที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพของชีวิต ที่เรียกว่า ความเป็นความตาย เราจะยิ่งไม่ประมาท หรือกลัวอย่างยิ่งที่จะไปอยู่ ณ จุดเสี่ยงนั้น  นี่คือการสร้างภูมิคุ้มกัน ที่เกิดขึ้นกับคริสตจักรยุคแรก การทดลองเรื่องเงิน ที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เราคิดว่า เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวได้ยังไง บางคนอาจว่า ถ้าไม่ใช่เงินของเรา  อย่าถือมันไว้นานจนลังเลใจ เช่น เงินถวายสิบลด หรือเงินยืม เงินคนอื่น จงเป็นอย่างเปโตรและยอห์นที่ไม่มองเรื่องเงินทองเป็นประเด็นสำคัญ แต่อัครทูตมองที่ท่าทีเป็นสำคัญ ทำให้เขาเห็นลึกเข้าไปถึงจิตใจของอานาเนียและสัปฟีราที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปิดเผยให้เปโตรได้รู้ว่า เขากำลังโกหก เป็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตที่เกิดผลในเปโตรที่หยุดการทดลองเรื่องเงินทองในคนอื่น และในคริสตจักรได้ ประโยคทองที่เปโตรใช้คือ เงินและทองเราไม่มี แต่สิ่งที่เรามีเราให้ท่าน  คือฤทธิ์เดชแห่งพระนามพระเยซูคริสต์……อาเมน

“ชีวิตที่เกิดผลในพระคริสต์..หยุดการทดลองเรื่องเงินทอง”

1.เมื่อเงินเป็นนาย….จิตวิญญาณตาย

2. การหยุดทดลองเรื่องเงินเป็นภูมิคุ้มกัน

By admin