“ผู้รับใช้ของพระคริสต์…สำแดงชีวิตสดใหม่”

นักโภชนาการหรือกลุ่มแพทย์ที่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพในยุคของเราทุกวันนี้ ต่างยอมรับว่า อาหารคือสิ่งที่จะทำให้เรามีอายุยืนหรือหรือทำให้เรามีอายุสั้น  สิ่งที่เรากินเข้าไปมีผลต่อสุขภาพของเรา จนมีประโยคหนึ่งกล่าวว่า อาหารอายุยืนกินแล้วอายุสั้น อาหารอายุสั้นกินแล้วอายุยืน  อาหารอายุยืนคืออาหารที่ผ่านกระบวนการที่ทำให้เก็บได้นาน แต่อาหารอายุสั้น อยู่ได้ไม่นานก็จะเน่าเสีย

คนที่กำลังให้ความสนใจ ใส่ใจกับเรื่องสุขภาพก็จะรู้จักคำว่า อาหารคลีน (Clean food) คืออาหารที่ปรุงสดใหม่ อาหารที่ไม่มีการปรุงรสมาก รักษารสธรรมชาติของอาหารนั้นๆ  นี่คืออาหารที่ทำให้อายุยืน อาหารที่ทำให้คนกินมีสุขภาพดี แข็งแรง หลักการก็คือ ความสดใหม่  ในพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องของอาหารที่มีความสำคัญต่อชีวิต  เมื่อครั้งที่พระเยซูทรงอดอาหารอธิษฐานถึง 40 วัน มารมาทดลองพระเยซูอันแรก คือเรื่องของอาหาร พระคัมภีร์ได้บันทึกว่า พระเยซูทรงหิวมาก

มัทธิว 4:1-4 1 ครั้ง​นั้น ​พระ​วิญญาณ​ทรง​นำ​พระ​เยซู​เข้า​ไป​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร เพื่อ​มาร​จะ​ได้มา​ผจญ2 และ​พระ​องค์​ทรง​อด​พระ​กระยา​หาร​สี่​สิบ​วัน​สี่​สิบ​คืน ภายหลัง​พระ​องค์​ก็​ทรง​อยาก​พระ​กระยา​หาร​3 ส่วน​ผู้​ผจญ​มา​หา​พระ​องค์​ทูล​ว่า “ถ้า​ท่าน​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า จง​สั่ง​ก้อน​หิน​เหล่า​นี้​ให้​กลาย​เป็น​พระ​กระยา​หาร”4 ฝ่าย​พระ​องค์​ตรัส​ตอบ​ว่า “มี​พระ​คัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า ‘มนุษย์​จะ​บำรุง​ชีวิต​ด้วย​อาหาร​สิ่ง​เดียว​หา​มิได้ แต่​บำรุง​ด้วย​พระ​วจนะ​ทุก​คำ ซึ่ง​ออกมา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​เจ้า’ ”

มารทดลองพระเยซูด้วยเรื่องกิน ขณะที่พระเยซูทรงหิวมากเพราะอาหารไม่ได้ตกถึงท้องเป็นเวลาสี่สิบวัน มารตั้งคำถามชี้นำต่อพระเยซูว่า ถ้าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า ก็จงสั่งให้ก้อนหินกลายเป็นขนมปัง ทำไมพระเยซูจึงไม่ทำตามที่มารแนะนำ แต่ทรงยอมหิวดีกว่าเชื่อฟังมาร แม้คำแนะนำของมารจะดีและทำได้ แต่คำแนะนำนั้นมาจากมาร ที่เรียกว่าการทดลอง ประเด็นอยู่ตรงนี้ มารต้องการให้พระเยซูใช้สิทธิอำนาจของพระองค์สนองต่อความอยากของร่างกายของพระองค์ พระเยซูไม่ตอบสนองคำแนะนำนี้ พระเยซูทรงตอบโต้การชี้นำของมารด้วยพระวจนะของพระเจ้าที่ว่า “มี​พระ​คัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า ‘มนุษย์​จะ​บำรุง​ชีวิต​ด้วย​อาหาร​สิ่ง​เดียว​หา​มิได้ แต่​บำรุง​ด้วย​พระ​วจนะ​ทุก​คำ ซึ่ง​ออกมา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​เจ้า’ ” ในตอนนี้ พระเยซูพูดคำว่า  พระวจนะ ด้วยคำกรีกว่า เรมาห์ ที่ออกมาจากพระโอษฐ์ (ปาก)ของพระเจ้า  นี่คือความสดใหม่ ไม่ใช่ถ้อยคำที่บันทึกไว้แล้วล่วงหน้า  แต่เป็นคำพูดสดๆ   เราไม่มีวันที่จะรู้ก่อนว่า พระเจ้าจะพูดอะไร (เรมาห์ คือสิ่งที่ออกมาเวลานั้น และคนที่จะรู้คือคนฟัง รู้สึกโดนๆ)  ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า ข้าพเจ้าไม่รู้ว่า เรมาห์จะมาเมื่อไหร่ แต่พวกคุณที่ฟัง แล้วโดน พวกคุณคือคนที่รับเรมาห์ โลกอส คือถ้อยคำในพระคัมภีร์ที่เราอ่าน แต่เรมาห์คือถ้อยคำที่ออกมาจากถ้อยคำอีกที เรมาห์คือความสดใหม่ ที่จะทำให้ชีวิตการเป็นคริสเตียนของเราสดใหม่ จิตวิญญาณของเราต้องการอาหารฝ่ายจิตวิญญาณที่สดใหม่ (เรมาห์) คือ คลีนฟู้ดฝ่ายวิญญาณ  และน่าสนใจมากว่า อ.เปาโลได้เขียนตอนหนึ่งในหนังสือหนึ่งทิโมธีว่า

1ทิโมธี 4:12 12 อย่า​ให้​ผู้ใด​หมิ่น​ประมาท​ความ​หนุ่ม​แน่น​ของ​ท่าน แต่​จง​เป็น​แบบอย่าง​แก่​คน​ที่​เชื่อ​ทั้ง​ปวง ทั้ง​ใน​ทาง​วาจา​และ​การ​ประพฤติ ใน​ความ​รัก ใน​ความ​เชื่อ และ​ใน​ความ​บริสุทธิ์​

เราเข้าใจว่า จดหมายฉบับนี้ เขียนถึงหนุ่มน้อยที่ชื่อทิโมธี เพื่อจะหนุนใจการรับใช้ในบทบาทศิษยาภิบาลของเขา และข้อความตอนนี้ เป็นที่รู้จักของคริสเตียนทุกคนว่าหมายถึงอายุ แต่มาดูคำว่า ความหนุ่มแน่น (อย่าให้ใครประมาท) ในภาษากรีก นีโอเทส (ซึ่งใช้กับอายุ) การเรียกอายุของคนหนุ่มในภาษากรีกคำนี้ มาจากรากศัพท์คำว่า นีออส แปลว่า ใหม่ ถ้าใช้กับอายุ ก็หมายถึงคนอายุน้อย ถ้าใช้กับอาหารและเครื่องดื่ม ก็แปลว่า ความสดใหม่ (Fresh new)  เปาโลกำลังสอนทิโมธีว่า อย่าให้ใครหมิ่นประมาทความหนุ่มแน่นของท่าน นั่นหมายความว่า อย่าเป็นแต่อายุน้อยเท่านั้น แต่​จง​เป็น​แบบอย่าง​แก่​คน​ที่​เชื่อ​ทั้ง​ปวง ทั้ง​ใน​ทาง​วาจา​และ​การ​ประพฤติ ใน​ความ​รัก ใน​ความ​เชื่อ และ​ใน​ความ​บริสุทธิ์​  ในความรัก ในความเชื่อ และในความบริสุทธิ์ (ในภาษากรีก ใช้ห้าด้าน)

in word(Logos), ตรงนี้ หมายถึงถ้อยคำของตัวเราเอง รวมถึงความคิด

in conversation, การกระทำ ที่ตอบสนอง

in love, แบบอากาเป้

in faith ความเชื่อที่ไว้วางใจ

and in purity (cleanliness). ความสะอาด

มีคำหนึ่งที่พูดว่า อายุเป็นเพียงตัวเลข เรามักจะมองที่เรื่องหน้าตา เช่นหน้าอ่อน แต่มีพระคัมภีร์สดุดีตอนหนึ่งได้กล่าวถึงอายุเป็นเพียงตัวเลข สำหรับคนอายุน้อย เมื่อเทียบกับ……

สดุดี 119:100 100 ข้า​พระ​องค์​เข้าใจ​มากกว่า​คน​สูงอายุ เพราะ​ข้า​พระ​องค์​รักษา​ข้อบังคับ​ของ​พระ​องค์

กษัตริย์ดาวิดเขียนถึงอายุที่ยังน้อย แต่ความเข้าใจไม่น้อยเลย นี่คือเป้าหมายที่อ.เปาโลที่กำลังบอกกับทิโมธีว่า อย่าเป็นแค่สดใหม่ในเรื่องของอายุ แต่จงมีความสดใหม่ในหกด้านของชีวิต (จึงจะเป็นคนที่จะสอนคนอื่นได้ นั่นคือ สอนด้วยชีวิต) คำพูด การกระทำ ความรัก ความเชื่อ และความไร้ตำหนิของชีวิต Purity

พระเยซูได้โต้ตอบกับพวกฟาริสีเรื่องการกินอาหารไม่ล้างมือ จะทำให้เป็นมลทิน (เราต้องเข้าใจว่า การล้างมือก่อนกินอาหารคืออนามัยที่ถูกต้องเรื่องความสะอาด และเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่พวกฟาริสีเอาเรื่องการล้างมือมาทำให้เป็นพิธีกรรมขั้นตอนที่ยุ่งยากขึ้น ทำให้ดูมีความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะเพื่อจะโจมตีสาวกของพระเยซู  พระเยซูก็เลยตอบโต้แบบเรมาห์

มาระโก 7:1-8 1 ครั้ง​นั้น พวก​ฟาริสี​กับ​พวก​ธรรมาจารย์​บาง​คน ซึ่ง​ได้มา​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​พา​กัน​มา​หา​พระ​องค์​2 เขา​ได้​เห็น​เหล่า​สาวก​บาง​คน​รับประทาน​อาหาร​ด้วย​มือ​ที่​เป็น​มลทิน คือ​มือ​ที่​ไม่ได้​ล้าง​ก่อน​3 (​เพราะ​ว่า​พวก​ฟาริสี​กับ​พวก​ยิว​ทั้งสิ้น​ถือ​ตาม​คำ​ที่​บรรพ​บุรุษ​สอน​ต่อๆ กัน​มา​นั้น​ว่า ถ้า​มิได้​ล้าง​มือ​ตาม​พิธี​โดย​เคร่งครัด เขา​ก็​ไม่​รับประทาน​อาหาร​เลย​4 และ​เมื่อ​เขา​มา​จาก​ตลาด ถ้า​มิได้​ทำ​พิธี​ชำระ​ตัว​ก่อน เขา​ก็​ไม่​บประทาน​อาหาร​และ​ธรรม​เนียม​อื่นๆ อีก​หลาย​อย่าง​เขา​ก็​ถือ คือ​ล้าง​ถ้วย​เหยือก​และ​ภาชนะ​ทอง​สัมฤทธิ์​)​5 พวก​ฟาริสี​กับ​พวก​ธรรมาจารย์​จึง​ทูล​ถาม​พระ​องค์​ว่า “ทำไม​พวก​สาวก​ของ​ท่าน​ไม่​ประพฤติ​ตาม​คำ​สอน​ที่​ตก​ทอด​มา​จาก​บรรพ​บุรุษ แต่​รับประทาน​อาหาร​ด้วย​มือ​เป็น​มลทิน”6 ​พระ​องค์​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “อิสยาห์​ได้​พยากรณ์​ถึง​พวก​เจ้า​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด ​ก็​ถูก​ตาม​ที่​ได้​เขียน​ไว้​ว่า ประชาชน​นี้​ให้​เกียรติ​เรา​แต่​ปาก ใจ​ของ​เขา​ห่างไกล​จาก​เรา 7 เขา​นมัสการ​เรา​โดย​หา​ประโยชน์​มิได้ ด้วย​เอา​บทบัญญัติ​ของ​มนุษย์​มา​ตู่​ว่า​เป็น​พระ​ดำรัส​สอน​ของ​พระ​เจ้า 8 เจ้า​ทั้ง​หลาย​ละธรรม​บัญญัติ​ของ​พระ​เจ้า และ​กลับไป​ถือ​ตาม​ถ้อยคำ​ของ​มนุษย์​ที่​เขา​สอน​ต่อๆ กัน​มา​นั้น”

พระเยซูตอบโต้พวกฟาริสีแล้ว พระองค์ก็สอนสิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทินที่แท้จริง ก็คือการสิ่งที่ออกมาจากมนุษย์ อะไรที่เราป้อนให้กับจิตใจของเรา เนื้อหนังตอบสนองต่อสิ่งที่เราป้อนเข้าไปในจิตใจ

20 ​พระ​องค์​ตรัส​ว่า “สิ่ง​ที่​ออกมา​จาก​ภาย​ใน​มนุษย์ สิ่ง​นั้น​แหละ​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มลทิน​

21 เพราะ​ว่า​จาก​ภาย​ใน​มนุษย์​คือ​จาก​ใจ​มนุษย์ มี​ความ​คิด​ชั่ว​ร้าย การ​ล่วง​ประเวณี การ​ลัก​ขโมย การ​ฆ่า​คน การ​ผิด​ผัว​ผิด​เมีย​

22 การ​โลภ ความ​อธรรม การ​ล่อลวง​เขา ราคะ​ตัณหา อิจฉา​ตา​ร้อน การ​ใส่​ร้าย ความ​เย่อหยิ่ง ความ​บัดซบ​

23 สารพัด​การ​ชั่ว​นี้​เกิด​มา​จาก​ภาย​ใน และ​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มลทิน”

1ยอห์น. 2:16 เพราะ​ว่า​สารพัด​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​โลก คือ​ตัณหา​ของ​เนื้อ​หนัง​และ​ตัณหา​ของ​ตา และ​ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ​ไม่ได้​เกิด​มา​จาก​พระ​บิดา แต่​เกิด​มา​จาก​โลก​

เรากำลังป้อนอาหารที่สดใหม่ของจิตวิญญาณอย่างไร หรือเรากำลังป้อนอาหารของตัณหาของเนื้อหนังและตัณหาของตา ความทะนงที่มาจากโลกนี้ อาหารฝ่ายจิตวิญญาณที่สดใหม่ที่กินแล้วไม่ตาย

ยอห์น6:27 27 อย่า​ขวน​ขวาย​หา​อาหาร​ที่​เสื่อม​สิ้น​ไป แต่​จง​หา​อาหาร​ที่​ดำรง​อยู่​คือ​อาหาร​แห่ง​ชีวิต​นิรันดร์ ซึ่ง​บุตร​มนุษย์​จะ​ให้แก่​ท่าน เพราะ​พระ​เจ้า​คือ​พระ​บิดา​ได้​ทรง​ประทับตรา​มอบ​อำนาจ​แก่​พระ​บุตร​แล้ว”

ขีวิตฝ่ายร่างกายต้องการอาหารที่สดใหม่ ฉันใด ชีวิตฝ่ายวิญญาณยิ่งต้องการอาหารฝ่ายวิญญาณที่สดใหม่ น่าสนใจว่า พระเยซูทรงเรียกพระองค์เองว่า เป็นอาหารแห่งชีวิต(นิรันดร์) กินแล้วไม่ตาย

ยอห์น 6:50-51,57 50 แต่​นี่​เป็น​อาหาร​ที่​ลง​มา​จาก​สวรรค์ เพื่อให้​ผู้​ที่​ได้​กิน​แล้ว​ไม่​ตาย​51 เรา​เป็น​อาหาร​ที่​ธำรง​ชีวิต ซึ่ง​ลง​มา​จาก​สวรรค์ ถ้า​ผู้ใด​กิน​อาหาร​นี้ ผู้​นั้น​จะ​มี​ชีวิต​นิรันดร์ และ​อาหาร​ที่​เรา​จะ​ให้​เพื่อ​เห็น​แก่​ชีวิต​ของ​โลก​นั้น ​ก็​คือ​เลือด​เนื้อ​ของ​เรา”…. 57 ​พระ​บิดา​ผู้​ทรง​ดำรง​พระ​ชนม์​ได้​ทรง​ใช้​เรา​มา และ​เรา​มี​ชีวิต​เพราะ​พระ​บิดา​นั้น​ฉัน​ใด ผู้​ที่​กิน​เรา​ผู้​นั้น​ก็​จะ​มี​ชีวิต​เพราะ​เรา​ฉัน​นั้น​

ในบริบทของพระคัมภีร์ตอนนี้ กล่าวเปรียบเทียบยุคที่โมเสสนำอิสราเอลเดินทางในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี และพระเจ้าทรงส่งอาหารจากฟ้า คือมานาให้กัคนอิสราเอลเวลานั้นกินทุกวัน คนอิสราเอลเรียกอาหารนั้นว่า อาหารสวรรค์ ทุกเช้าตกจากฟ้า และคนอิสราเอลออกไปเก็บ และพระเจ้าทรงสั่งว่าให้เก็บแค่พอกินในวันนั้น อย่าเก็บเผื่อพรุ่งนี้ แต่คนอิสราเอลไม่เชื่อ เก็บมากเพื่อจะเผื่อวันพรุ่งนี้ มานาก็บูดเน่ากินไม่ได้  คนอิสราเอลถูกเลี้ยงดูให้อยู่ด้วยความเชื่อในการเลี้ยงดูของพระเจ้าวันต่อวัน พระเยซูทรงยกตัวอย่างเรื่องนี้เปรียบเทียบตัวของพระเยซูในฐานะพระคริสต์ พระองค์ทรงนำความสดใหม่ของอาหารฝ่ายจิตวิญญาณมาให้กับสาวกของพระองค์ ดังนั้น สาวกของพระเยซูคริสต์จะต้องรับคำสอนของพระองค์เหมือนอาหารที่สดใหม่สำหรับจิตวิญญาณของตนเอง ผู้รับใช้ของพระคริสต์…จะสำแดงชีวิตที่สดใหม่ได้ จำเป็นต้องรับอาหารฝ่ายจิตวิญญาณที่สดใหม่ อาหารฝ่ายจิตวิญญาณที่สดใหม่เกิดขั้นได้อย่างไร

มีคริสเตียนทะเล้นๆ มักจะพูดว่า ตนเองอดอาหารฝ่ายวิญญาณด้วยการไม่อ่านพระคัมภีร์ เป็นการพูดเล่นแต่ทำจริง คือชีวิตประจำวันของตัวเขาไม่อ่านพระคัมภีร์เลย เราเรียกพระวจนะที่บันทึกในพระคัมภีร์ว่าโลกอส (ซึ่งข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า นี่คือความเข้าใจผิดอย่างมากในการเรียกพระคัมภีร์เป็นอาหารฝ่ายวิญญาณ) ความจริง อาหารฝ่ายวิญญาณของคริสเตียนจริงๆคือ เรมาห์ ไม่ใช่โลกอส) ความจริง เราต้องอ่านพระคัมภีร์ให้ได้เรมาห์ สดใหม่จากพระโอษฐ์ของพระเจ้า นั่นคือพระเจ้ากำลังพูดอะไรกับเรา เมื่อเราโดน นั่นคือเรมาห์ (สดใหม่) และเมื่อเราโดนจริงๆอะไรเกิดขึ้น  มันคือการเปลี่ยนแปลง  และการเปลี่ยนแปลงนี้ มันต่อเนื่อง ไม่หยุดที่จะเปลี่ยนแปลง  นี่คือคำว่า สดใหม่ที่แท้จริง

ทุกวันนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมุมใดในชีวิตของเราแต่ละคนบ้าง นิสัยใหม่ พฤติกรรมใหม่ คำพูดที่ไม่เหมือนเดิม เลิกพูดคำอะไรบ้าง

2โครินธ์ 5:17 เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ผู้ใด​อยู่​ใน​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ใหม่​แล้ว สิ่ง​สารพัด​ที่​เก่าๆ ​ก็​ล่วง​ไป นี่​แน่ะ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ใหม่​ทั้งนั้น​

ผู้รับใช้ของพระคริสต์….ที่สำแดงชีวิตสดใหม่  นับวัน จะยิ่งเหมือนใคร  นับวันความอยากจะเหมือนใครบางคน เช่น ซุปตาร์ หรือไอดอลไหนๆจะหายไป ความอยากนั้นจะลดน้อยถอยลงไป ยิ่งกินอาหารที่สดใหม่ฝ่ายวิญญาณ ก็ยิ่งอยากเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากยิ่งขึ้น การสำแดงชีวิตที่สดใหม่ จะสำแดงชีวิต….

1.มีชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์ ยอห์น 6:53-54

53 ​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า ถ้า​ท่าน​ไม่​กิน​เนื้อ​และ​ไม่​ดื่ม​โลหิต​ของ​บุตร​มนุษย์ ท่าน​ก็​ไม่​มี​ชีวิต​ใน​ตัว​ท่าน​54 ผู้​ที่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​เรา ​ก็​มี​ชีวิต​นิรันดร์ และ​เรา​จะ​ให้​ผู้​นั้น​ฟื้น​ขึ้น​มา​ใน​วัน​สุดท้าย​     

พระเยซูตรัสคำว่า ถ้าสาวกของพระองค์ไม่กินเนื้อและเลือด นี่เป็นคำที่ใช้สำหรับการกินอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ เนื้อและเลือด แสดงความสดใหม่ของการรับอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ หมายถึงการดำเนินชีวิตด้วยความพอใจชีวิตฝ่ายวิญญาณมากกว่าความพอใจในชีวิตความอยากของเนื้อหนัง ชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์ คือชีวิตที่ปฏิเสธความต้องการของตัวเอง  แบกกางเขน พร้อมจะตายต่อความปรารถนาของตัวเองตลอดเวลา

เปาโลได้กล่าวว่า เขาอยากจะเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์

ฟิลิปปี 3:10 10 ข้าพเจ้า​ต้อง​การ​จะ​รู้จัก​พระ​องค์ และ​ได้รับ​ประสบการณ์​ใน​ฤทธิ์​เดช เนื่อง​ใน​การ​ที่​พระ​องค์​ทรง​คืน​พระ​ชนม์​นั้น และ​ร่วม​ทุกข์​กับ​พระ​องค์ คือ​ยอม​ตั้ง​อารมณ์​ตาย​เหมือน​พระ​องค์​

วันนี้ มีคนทักเราว่าเหมือนพระเยซูกี่เปอร์เซ็น หรือกำลังทักเราว่า เราเหมือนซุปตาร์ คนนั้น คนนี้ หรือเหมือนไอดอลคนนั้นคนนี้ เรากำลังทำให้คนรู้จักพระเยซูผ่านชีวิตของเราอย่างไร เรากำลังมีชีวิตที่สดใหม่ หรือกำลังมีชีวิตที่ปรุงแต่งให้ดูเหมือนสดใหม่ แต่ไม่มีชีวิตอยู่ในเรา

53 ​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า ถ้า​ท่าน​ไม่​กิน​เนื้อ​และ​ไม่​ดื่ม​โลหิต​ของ​บุตร​มนุษย์ ท่าน​ก็​ไม่​มี​ชีวิต​ใน​ตัว​ท่าน​

ไม่มีชีวิตอยู่ในท่าน เป็นคำที่รุนแรง….. ซึ่งเปาโลใช้คำที่มีความหมายเดียวกัน

2โครินธ์ 2:16-17 16 ฝ่าย​หนึ่ง​เป็น​กลิ่น​แห่ง​ความ​ตาย​ซึ่ง​นำไปสู่​ความ​ตาย และ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​เป็น​กลิ่น​หอม​แห่ง​ชีวิต​ซึ่ง​นำไปสู่​ชีวิต ใคร​เล่า​จะ​มี​ความ​สามารถ​เหมาะสม​กับ​พันธ​กิจ​เหล่า​นี้​17 เพราะ​ว่า​เรา​ไม่​เหมือน​คน​เป็น​อัน​มาก ที่​เอา​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ไป​ขาย​กิน แต่​ว่า​เรา​ประกาศ​ด้วย​อาศัย​พระ​คริสต์​อย่าง​คน​สัตย์​ซื่อ อย่าง​คน​ที่มา​จาก​พระ​เจ้า และ​อย่าง​คน​ที่​อยู่​จำเพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​

ไม่มีชีวิต หมายถึงตาย แต่ถ้ามีชีวิต แสดงว่า เป็นกลิ่นหอม (ใครๆก็อยากเข้าใกล้ อยากได้ชีวิต Life on life คนที่เหมาะสมกับพันธกิจชีวิต คือคนที่มีชีวิต ไม่ใช่คนที่ไม่มีชีวิต อ.เปาโลได้กล่าวถึง การเป็นคริสเตียนของตัวเปาโล เป็นแบบอย่างของคริสเตียนที่มีชีวิต คำว่า ไม่เอาพระวจนะไปขายกิน (โลกอส) เปาโลกำลังบอกว่า ถ้าการดำเนินชีวิตคริสเตียนของเปาโลมีแต่โลกอส ไม่มีเรมาห์ (นี่คือเหตุผลว่า ทำไมพระคัมภีร์จึงถูกเรียกว่า เป็นพระคำที่มีชีวิต) เราต้องนำชีวิตจากพระคำไปสู่คนอื่น ถ้าพระคัมภีร์ขาดความสดใหม่ อ่านพระคัมภีร์ก็ไม่ต่างจากการอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ วรรณกรรม คำสอน เท่านั้น การอ่านพระคัมภีรืของเราต้องนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์

ยิ่งอ่าน ยิ่งศึกษาพระคัมภีร์ นับวัน เรายิ่งถอดหน้ากากออก นับวัน เรายิ่งถอดวัตถุสิ่งของออก นับวันเรายิ่งทิ้งสิ่งเก่าๆ นิสัยเก่า คำพูดเก่าออก เรายิ่งสำแดงชีวิตที่เหมือนพระเยซู คือการมองสิ่งของต่างๆไร้ค่า เรายิ่งหวงของน้อยลง เรายิ่งมองเห็นคุณค่าของคนมีค่ากว่าสิ่งของ เรายิ่งมองเห็นน้ำพระทัยของพระเจ้าเป็นอาหารฝ่ายจิตวิญญาณมากกว่าการแสวงหาโลกนี้มาหล่อเลี้ยงจิตใจของตนเอง

กาลาเทีย 6:7-8 7 อย่า​หลง​เลย ท่าน​จะ​หลอก​ลวง​พระ​เจ้า​ไม่ได้ เพราะ​ว่า​ผู้ใด​หว่าน​อะไร​ลง ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​สิ่ง​นั้น​8 ผู้​ที่​หว่าน​ใน​ย่าน​เนื้อ​หนัง​ของ​ตน ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ความ​เปื่อย​เน่า​จาก​เนื้อ​หนัง​นั้น แต่​ผู้​ที่​หว่าน​ใน​ย่าน​พระ​วิญญาณ ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ชีวิต​นิรันดร์​จาก​พระ​วิญญาณ​นั้น​

พระคำตอนนี้กำลังกล่าวถึง การดำเนินชีวิตส่วนตัวของเราแต่ละคน ไม่ใช่งานที่เราทำ การเป็นผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลาก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะพ้นจากกรอบของพระคัมภีร์เรื่องการหว่านย่านเนื้อหนัง หรืออยู่ในกรอบของการหว่านแต่ฝ่ายวิญญาณ

โรม 8:5 5 เพราะ​ว่า​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​ฝ่าย​เนื้อ​หนัง ​ก็​ปัก​ใจ​ใน​สิ่ง​ซึ่ง​เป็น​ของ​ของ​เนื้อ​หนัง แต่​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​ฝ่าย​พระ​วิญญาณ ​ก็​สนใจ​ใน​สิ่ง​ซึ่ง​เป็น​ของ​พระ​วิญญาณ​

มีผู้รับใช้เต็มเวลาไม่น้อยที่ทำงานฝ่ายวิญญาณ แต่จิตใจปักอยู่กับเนื้อหนัง

ชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์ทุกวัน คือชีวิตที่ยิ่งเดินยิ่งห่างจากวิถีของโลกนี้ ไม่ใช่ยิ่งเป็นรักโลกนี้

1ยอห์น 2:15-17 15 อย่า​รัก​โลก​หรือ​สิ่งของ​ใน​โลก ถ้า​ผู้ใด​รัก​โลก ความ​รัก​ต่อ​พระ​บิดา​ไม่ได้​อยู่​ใน​ผู้​นั้น16 เพราะ​ว่า​สารพัด​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​โลก คือ​ตัณหา​ของ​เนื้อ​หนัง​และ​ตัณหา​ของ​ตา และ​ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ​ไม่ได้​เกิด​มา​จาก​พระ​บิดา แต่​เกิด​มา​จาก​โลก​17 และ​โลก​กับ​สิ่ง​ที่​ยั่วยวน​ของ​โลก​กำลัง​ล่วง​ไป แต่​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​จะ​ดำรง​อยู่​เป็น​นิตย์​ ​

พระเยซูมักจะพูดถึงอาหารของพระองค์คือการทำตามมพระทัยของพระบิดา ผู้รับใช้ของพระคริสต์…สำแดงชีวิตสดใหม่ด้วยการเหมือนพระเยซู และที่สำคัญกว่านั้นอีก คือ ชีวิตที่….

2.ให้พระเยซูคริสต์สำแดงพระองค์เอง ยอห์น 6:55-56

55 เพราะ​ว่า​เนื้อ​ของ​เรา​เป็น​อาหาร​แท้ และ​โลหิต​ของ​เรา​ก็​เป็น​ของ​ดื่ม​แท้​56 ผู้​ที่​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​เรา ผู้​นั้น​ก็​อยู่​กับ​เรา​และ​เรา​อยู่​กับ​เขา​

คีย์เวิร์ด คือ ผู้​นั้น​ก็​อยู่​กับ​เรา​และ​เรา​อยู่​กับ​เขา​  เราไม่ต้องพยายามสำแดงพระเยซู (สิ่งที่เราต้องทำคือเป็นพยานของพระเยซู)

กิจการ1:8 8 แต่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้รับ​พระ​ราชทาน​ฤทธิ์​เดช เมื่อ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จะ​เสด็จ​มา​เหนือ​ท่าน และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​พยาน​ฝ่าย​เรา​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย แคว้น​สะมาเรีย และ​จนถึง​ที่สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก”

พระเยซพูดชัดเจนว่า งานของเราคือเป็นพยานฝ่ายพระองค์ หมายความว่า เราพบพระเยซูในชีวิตของเราอย่างไร ก็พูดตามที่เราพบ เพราะนั่นคือ คำพยานที่สดใหม่เสมอ และพระเยซูจะทำส่วนของพระองค์ คือ พระเยซูจะสำแดงพระองค์เอง พระเยซูทรงไว้ซึ่งสิทธิอำนาจ ฤทธิ์เดช พระเยซูอยู่ที่ไหน พระองค์จะสำแดงฤทธิ์เดช สิทธิอำนาจของพระองค์ผ่านผู้เชื่อ ชีวิตของคุณจะมีประสบการณ์กับการทรงสถิตของพระองค์ การอัศจรรย์ เรื่องเกินความเข้าใจ เรื่องเหลือเชื่อ จะเกิดขึ้นกับคุณ ทุกๆวัน  ประสบการณ์กับพระเยซูคริสต์วันต่อวัน  สำคัญว่า เราดำเนินชีวิตให้พระเยซูเป็นความปรารถนาของเราอย่างไร เรารู้สึกว่าเรากำลังอยู่กับพระเยซูและพระองค์กำลังอยู่กับเราอย่างไร

คำพยานของะรามีพลัง น่าสนใจขนาดไหน เป็นการอัศจรรย์ เป็นการจัดเตรียมของพระเจ้าอย่างไร

มัทธิว 28:18-20 18 ​พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​เข้า​มา​ใกล้​แล้ว​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ฤทธานุภาพ​ทั้งสิ้น​ใน​สวรรค์​ก็​ดี ใน​แผ่นดิน​โลก​ก็​ดี​ทรง​มอบ​ไว้​แก่​เรา​แล้ว​19 เหตุ​ฉะนั้น​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​ออกไป​สั่ง​สอน​ชน​ทุก​ชาติ ให้​เป็น​สาวก​ของ​เรา ให้​รับ​บัพติศมา​ใน​พระ​นาม​แห่ง​พระ​บิดา ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​20 สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้ นี่​แหละ​เรา​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เสมอ​ไป จนกว่า​จะ​สิ้น​ยุค”

อยากให้เรามองภาพของแฮมเบอร์เกอร์ ที่มีขนมปังประกบบนล่าง สิ่งที่บ่งบอกว่านี่คือแฮมเบอร์เกอร์ คือขนมปังบนล่าง หากเรามาดูสิ่งที่พระเยซูพูดท่อนบน (ก่อนสุด) คือ ฤทธานุภาพของพระองค์…และปิดท้ายด้วย การอยู่ด้วยของพระองค์กับสาวกของพระองค์ นี่คือประเด็นสำคัญ ถ้าเราประกาศ เป็นพยาน สอน ทำทุกอย่าง แต่ขาดท่อนบน (คือฤทธิ์เดช และขาดการสำแดงของพระคริสต์) นั่นไม่ใช่…ไม่ใช่ ใครๆก็เลียนแบบ พูดอย่างเดียวกัน ทำอย่างเดียวกันกับศาสนาคริสต์ได้ (ถ้าเอาคนศาสนาอื่นมาสอนก็อาจจะสอนได้ดีกว่า) แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ฤทธิ์เดชและพระเยซูคริสต์สำแดงพระองค์เอง นี่คือความสดใหม่ ตลอดเวลาของคริสเตียนที่เดินในทางเดียวกันกับพระเยซู

ให้เราสำรวจตัวเรา สิ่งที่เราทำ หนทางที่เราเดินไป เรากำลังเดินในทางของพระเยซูใช่ไม๊ จิตวิญญาณของเรากำลังจะตาย หรือมีชีวิตต่อไป เรากำลังเหี่ยวเฉาหรือเรากำลังมีชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ เรามีการสำแดงที่สดใหม่เพื่อส่งต่อให้กับคนใกล้ๆเราอย่างไร วันนี้ ชีวิตกำลังหยุดนิ่งหรือ? …ชีวิตที่สดใหม่คือสิ่งที่เราต้องการ

“ผู้รับใช้ของพระคริสต์…สำแดงชีวิตสดใหม่”

1.มีชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์

2.ให้พระเยซูคริสต์สำแดงพระองค์เอง

By admin