“สู่จุดหมายปลายทาง”

วีดีโอเสียง ยินดีต้อนรับ…สู่เที่ยวบินแห่งความสุข

คลิปวีดีโอเสียงนี้ คือความคาดหวังสำหรับคนทั่วไป กับปีใหม่ที่อีกไม่กี่วันนี้ กำลังจะมาถึง ด้วยการ   countdown นับถอยหลัง เที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม ย่างเข้าสู่นาทีแรกของวันที่  1 มกราคม กลายจุดตื่นเต้นของคนมากมาย แต่ว่า การเดินทางอันแสนยาวไกลกำลังรออยู่ข้างหน้า อีกหนึ่งปี บางคนก็ไปไม่ถึงปี  ไม่มีโอกาสที่จะนับ countdown ในปีต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตของตนเอง ว่าจะจบเห่ หรือจะไปต่อ จะเดิน หรือจะนั่งรถ ลงเรือ ขึ้นรถไฟ หรือขึ้นเครื่องบิน

ถ้าเราได้ยินคำว่า สถานีต่อไป คือ…แสดงว่า เรายังไปต่อได้ แต่ถ้าเราได้ยินว่า สุดทางตันแล้ว มองไม่เห็นทางไปต่อแล้ว ก็จงรีบลงจากรถไฟ เพื่อจะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่จะไปให้สุดปลายทางให้ได้

ปัญญาจารย์ 2:13-16  13 ข้าพเจ้า​เห็น​ว่า​สติปัญญา​วิเศษ​กว่า​ความ​เขลา เหมือน​ความ​สว่าง​วิเศษ​กว่า​ความ​มืด​14 คน​มี​สติปัญญา​มี​ตา​อยู่​ใน​สมอง แต่​คน​เขลา​เดิน​ใน​ความ​มืด ถึง​กระนั้น​ข้าพเจ้า​ยัง​เห็น​ว่า เคราะห์​อย่าง​เดียว​กัน​เกิดขึ้น​แก่​เขา​ทั้ง​มวล​15 ข้าพเจ้า​จึง​รำพึง​ว่า “เคราะห์​กรรม​อัน​ใด​เกิด​แก่​คน​เขลา​ฉัน​ใด ​ก็​คง​จะ​เกิด​กับ​ตัว​ข้าพเจ้า​ฉัน​นั้น ถ้า​กระนั้น​แล้ว​ข้าพเจ้า​จะ​มี​สติปัญญา​มาก​มาย​ทำไม​เล่า” ข้าพเจ้า​จึง​รำพึง​ว่า​เรื่อง​นี้​ก็​อนิจจัง​เหมือน​กัน​16 เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ระลึก​ถึง​คน​มี​สติปัญญา​เช่น​เดียว​กับ​คน​เขลา ด้วย​เห็น​ว่า​ใน​อนาคต​ก็​ลืม​กัน​ไป​หมด​แล้ว พุทโธ่ คน​มี​สติปัญญา​ก็​ตาย​เหมือน​คน​เขลา​

ปัญญาจารย์กล่าวถึงจุดจบของมนุษย์ทุกคน เหมือนกัน  ไม่ว่าคนๆนั้นจะฉลาดมีสติปัญญา หรือโง่เขลา  จะมีตาในสมอง หรือไม่มี จะเดินในทางสว่างหรือทางมืด  ไม่ต่างกัน แล้วอะไรที่ต่างกัน นั่นคือ บทสรุปที่ปัญญาจารย์ทิ้งท้ายเอาไว้ในบทสุดท้ายของหนังสือปัญญาจารย์เกี่ยวกับหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน

ปัญญาจารย์ 12:9-14 9 นอก​จาก​ท่าน​เป็น​คน​ฉลาด​แล้ว ปัญญา​จารย์​ยัง​สอน​ความ​รู้​ให้​ประชาชน​อีก​ด้วย เออ ท่าน​พิเคราะห์ ท่าน​ค้นคว้า และ​ท่าน​เรียบ​เรียง​สุภาษิต​10 ปัญญา​จารย์​เสาะหา​ถ้อยคำ​ที่​เพราะ​หู​และ​ท่าน​เขียน​ถ้อยคำ​แห่ง​ความ​จริง​ไว้​อย่าง​เที่ยงตรง 11 ถ้อยคำ​ของ​นักปราชญ์​เป็น​ประดุจ​ปฏัก และ​ถ้อยคำ​ที่​ท่าน​เมษ​บาล​รวบรวม​ไว้​ก็​ตรึง​แน่น​อย่าง​ตะปู​12 และ​ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก บุตร​ชาย​ของ​ข้าพเจ้า​เอ๋ย จง​รับ​คำ​ตักเตือน​เถิด ซึ่ง​จะ​ทำ​หนังสือ​มาก​ก็​ไม่​มี​สิ้นสุด และ​เรียน​มาก​ก็​เหนื่อย​เนื้อ​หนัง 13 จบ​เรื่อง​แล้ว ได้​ฟัง​กัน​ทั้งสิ้น​แล้ว จง​ยำเกรง​พระ​เจ้า และ​รักษา​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ เพราะ​นี่​แหละ​เป็น​หน้าที่​ของ​มนุษย์​ทั้ง​ปวง​14 ด้วย​ว่า​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​เอา​การ​งาน​ทุก​ประการ​เข้า​สู่​การ​พิพากษา​พร้อม​ด้วย​สิ่ง​เร้น​ลับ​ทุก​อย่าง ไม่​ว่า​ดี​หรือ​ชั่ว​

ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง คนทั่วโลกต่างมุ่งหวังจะขึ้นยานพาหนะ ที่จะไปพร้อมกับความสุข ความสำเร็จ สุขภาพที่ดีในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง เป็นความคาดหวังในการมีชีวิตอยู่  แต่อย่าลืมความจริงว่า ไม่เพียงคาดหวังที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเดียว แต่ต้องคาดหวังตอนจบของชีวิตด้วยว่า จะไปถึง จุดหมายปลาย จบลงอย่างไร  เพราะพระคัมภีร์ได้กล่าวว่า  ทุกการงาน ทุกชีวิตจะจบลงที่ การงานทุกอย่าง ทุกการกระทำ จะต้องถูกนำเข้าสู่กระบวนการที่เรียกว่า การพิพากษา (ตัดสิน)ว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน เหลือหรือไม่เหลือ หมดตัว หรือยังมีติดตัว

ดังนั้น การตั้งเป้าหมายของคนที่มีพระเจ้าจะแตกต่างจากคนทั่วไป ก็คือ พระคัมภีร์บอกเราว่า

14 ด้วย​ว่า​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​เอา​การ​งาน​ทุก​ประการ​เข้า​สู่​การ​พิพากษา​พร้อม​ด้วย​สิ่ง​เร้น​ลับ​ทุก​อย่าง ไม่​ว่า​ดี​หรือ​ชั่ว​

ถ้าอย่างนั้น  เป้าหมายของเส้นทางดำเนินชีวิตของเรา จำเป็นต้อง ไปให้ถึงจุดหมายปลายทางไม่ใช่แค่ความมั่งคั่ง ความสำเร็จ สุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่เพื่อจะเข้าสู่การตัดสินพิพากษาของพระเจ้า พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า

1โครินธ์ 3:13-15  13 การ​งาน​ของ​แต่​ละ​คน​ก็​จะ​ได้​ปรากฏ​ให้​เห็น เพราะ​วัน​เวลา​จะ​ให้​เห็น​ได้​ชัดเจน เพราะ​ว่า​จะ​เห็นชัด​ได้​ด้วย​ไฟ ไฟ​นั้น​จะ​พิสูจน์​ให้​เห็น​การ​งาน​ของ​แต่​ละ​คน​ว่า​เป็น​อย่างไร​14 ถ้า​การ​งาน​ของ​ผู้ใด​ที่​ก่อ​ขึ้น​ทน​อยู่​ได้ ผู้​นั้น​ก็​จะ​ได้​ค่าตอบแทน​15 ถ้า​การ​งาน​ของ​ผู้ใด​ถูก​เผา​ไหม้​ไป ผู้​นั้น​ก็​จะ​ขาด​ค่าตอบแทน แต่​ตัว​เขา​เอง​จะ​รอด แต่​เหมือน​ดัง​รอด​จาก​ไฟ

จำเป็นที่เราจะต้องสกรีน กลั่นกรองทุกอย่าง ที่เราจะทำ จะเป็น จะไปสู่  พระคัมภีร์ได้เตือนอย่างนี้ว่า

1เธสะโลนิกา 5:21 21 จง​พิสูจน์​ทุก​สิ่ง สิ่ง​ที่​ดี​นั้น​จง​ยึดถือ​ไว้​ให้​มั่น​

มีคนถามข้าพเจ้าว่า ตอนเรียนโรงเรียนพระคริสตธรรมในระดับปริญญาโท ที่ประเทศเกาหลีนั้น ข้าพเจ้าเรียนรู้เรื่องอะไร ข้าพเจ้าตอบคนที่ถามว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ไม่ใช่ว่ารู้พระคัมภีร์มากขึ้น แต่ได้เรียนรู้ว่า จะพิสูจน์อย่างไรว่า พระคัมภีร์คือของจริง เพราะฉะนั้น วิชาที่เรียน จึงเป็นการหาข้อมูลความจริงหลักฐานมาหักล้างให้ได้ว่า พระคัมภีร์โกหก และข้าพเจ้าก็ได้บทสรุปว่า พระคัมภีร์เป็นของจริง

เรากำลังอยู่ในยุคที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง การโกหก พระคัมภีร์จึงจัดอันดับเรื่องการพูดมุสา (โกหก) มีน้ำหนักเท่ากับการทำบาป เรื่องการล่วงประเวณี  และรูปเคารพ เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพระเจ้าอย่างยิ่ง

1เธสะโลนิกา 5:21 21 จง​พิสูจน์​ทุก​สิ่ง สิ่ง​ที่​ดี​นั้น​จง​ยึดถือ​ไว้​ให้​มั่น​

นี่คือความหมายเดียวกันกับที่พระเยซูทรงตรัสกับสาวก(ศิษย์)ของพระองค์ว่า

มัทธิซ 5:13-14 13 “ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​เกลือ​แห่ง​โลก ถ้า​เกลือ​นั้น​หมด​รส​เค็ม​ไป​แล้ว จะ​ทำ​ให้​กลับ​เค็ม​อีก​อย่างไร​ได้ แต่​นั้น​ไป​ก็​ไม่​เป็น​ประโยชน์​อะไร มี​แต่​จะ​ทิ้ง​เสีย​สำหรับ​คน​เหยียบ​ย่ำ14 “ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​ความ​สว่าง​ของ​โลก นคร​ซึ่ง​อยู่​บน​ภูเขา​จะ​ปิดบัง​ไว้​ไม่ได้​

เกลือต้องไม่หมดรสเค็ม  แสงสว่างต้องไม่พ่ายแพ้ต่อความมืด

ปีหน้า ปีใหม่ เราจะต้องไปให้ถึงจุดหมาย สุดปลายทางของความเป็นเกลือ ความเป็นแสงสว่าง  สวนกระแสในทุกด้าน

เรามีความเชื่อว่าปีหน้าเราจะสวนกระแส หลายคนชอบ เมื่อพูดถึงคำนี้ เพราะกระแสเศรษฐกิจของโลก ของประเทศกำลังตกต่ำ ฝืดเคืองทางการเงิน แต่เราจะสวนกระแสเศรษฐกิจ ที่แย่ แต่เศรษฐกิจของเราจะดีขึ้น หลายอาเมนทันที แต่ว่า เราจะสวนกระแสแค่เพียงเศรษฐกิจเท่านั้นหรือ   ข้าพเจ้าอยากจะบอกกับเราทั้งหลายว่า ถ้าเรายืนหยัดที่จะสวนกระแสกับความมืด  สวนกระแสกับความเละเทะเรื่องเพศ สวนกระแส กับความชั่ว การลามกทั้งหลาย  และสวนกระแสกับการโกหก การหลอกลวง การมุ่งร้าย ทำลาย การอยากเอาชนะ และอะไรก็ตามที่เลวร้าย ทำลาย ไม่ได้สร้างสรร  คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจะอยู่ไม่ได้  พระเจ้าจะอยู่ฝ่ายคุณแน่นอน พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า…

โรม 8:31 31 ถ้า​เช่นนั้น​เรา​จะ​ว่า​อย่างไร ถ้า​พระ​เจ้า​ทรง​อยู่​ฝ่าย​เรา ใคร​จะ​ขัดขวาง​เรา​

พระคัมภีร์ตอนนี้ จะไม่ใช่แค่ลมปากที่เราจะเอามาเอ่ยอ้าง แต่จะเป็นจริง  เป็นของจริงที่จับต้องได้  เป็นจริงได้ ต่อให้มีคนพยายามจะล้มคุณ ทำลาย ใส่ร้าย คุณก็จะอยู่ต่อได้ และไปได้อย่างยานพาหนะพิเศษของพระเจ้า

เมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้ามีความฝันที่เหมือนจริงมาก  ในความฝัน ข้าพเจ้ากำลังเดินทางด้วยรถไฟ ที่ถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง สุดท้าย รถไฟ ก็จอดที่สถานี แล้วบอกว่า ไปต่อไม่ได้แล้ว ต้องลงจากรถไฟทุกคน ข้าพเจ้ารีบไปซื้อตั๋วรถไฟให้กับทุกคนที่มากับข้าพเจ้า และบอกกับคนขายตั๋วรถไฟว่า ขอตีตั๋วให้ทุกคนไปขบวนรถไฟที่ไปให้ถึงจุดหมาย สุดปลายทางเลยนะ และเมื่อรถไฟมา ข้าพเจ้ารีบกระโดดเข้าไปในรถไฟขบวนใหม่ ที่สวนทางกับรถไฟขบวนเก่า  เข้าไปได้ประตูปิดทันที ข้าพเจ้าหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟว่า ทำไมประตูรถไฟปิดเร็วจัง คนอื่นจะขึ้นทันไม๊เนี่ย ไม่มีคำตอบ ทุกคนบนรถไฟ หน้าตาเป็นผู้ใหญ่ แต่ไม่แก่ และมองไปข้างหน้า รถไฟกำลังพาข้าพเจ้าไป สุดลูกหูลูกตา รถไฟขบวนนี้ กำลังพาข้าพเจ้าไปถึงจุดหมายปลายทางแน่ แต่พอหันกลับมา…อ้าว มีบางคนตกรถไฟ ไม่ได้ไปด้วย  อย่ารู้เลยว่าใคร …..

แต่เอาเป็นว่า เมื่อข้าพเจ้าตื่นขึ้น ข้าพเจ้าก็พยายามจะตีความหมายของความฝันนี้ว่า หมายถึงอะไร จนไม่นานมานี้ เพื่อนศิษย์เก่าโรงเรียนพระคริสตธรรมที่เกาหลี เรามีกลุ่มแชท จากเพื่อนที่กระจายกันไปรับใช้พระเจ้าทั่วโลก แทบทุกทวีป อเมริกา อัฟริกา คานาดา เอเชีย อินเดีย….เยอะแยะเต็มไปหมด ในกลุ่มแชทของเราก็จะมีการส่งข้อความรูปภาพการเคลื่อนไหวในงานรับใช้พระเจ้าทั่วโลกเข้ามา  มีเพื่อนท่านหนึ่ง เขียนบทความมาว่า เขาได้เห็นนิมิตเป็นรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรับใช้พระเจ้า ขึ้นรถไฟขบวนเดียวกัน  และมีคนที่กระโดดออกจากรถไฟไปก็เยอะ  คนที่กระโดดออกไปจากรถไฟ คือคนที่ไม่ไปกับรถไฟขบวนนี้ แล้ว รถไฟกำลังเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง ส่วนคนที่กระโดดออกไป ไปทำอะไรตามใจตนเอง ไม่อยากจะทนกับการต้องเดินทางไปกับรถไฟขบวนนี้

คุณว่า พระเจ้ากำลังบอกอะไรกับข้าพเจ้า …และกำลังบอกอะไรกับคริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11  แห่งนี้

คริสตจักรคือโบกี้หนึ่งที่กำลังเคลื่อนไปในขบวนรถไฟ ที่มีพระเยซูคริสต์เจ้า และนิมิตของคริสตจักร คือเข็มทิศที่ตั้งในทิศทางเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นหัวรถจักรนำและขับเคลื่อน พาเราไป สู่จุดหมายปลายทาง

วันนี้ คริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11ได้ผ่านการพิสูจน์แล้ว และยังต้องผ่านการพิสูจน์อีก ตราบใดที่คริสตจักรยังคงเป็นโบกี้ที่ต่อกับหัวรถจักร

คำถามก็คือว่า เราทุกคน กำลังกระโดดเข้าไปในรถไฟขบวนเดียวกันนี้ใช่ไม๊  เรากำลังเดินทางไปตามการทรงนำของพระเจ้า ไม่ใช่ความต้องการของเนื้อหนังใช่ไม๊

อย่ากระโดดออกไปจากโบกี้รถไฟที่กำลังพาเราไปถูกทิศทาง ไปอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ เราไม่มีคำว่า ก้าวต่อไป  เรามีแต่คำว่า สถานีต่อไป เราไม่ได้ต้วมเตี้ยมเตาะแตะอย่างเด็กเพิ่งหัดเดินแล้ว แต่เราจะเดินทางด้วยยานพาหนะ ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้เราเคลื่อนไป ไม่ใช่เคลื่อนไหว ดุกดิก เหมือนมีชีวิต แต่ความจริง ตายสนิท จอดสนิท ไปต่อไม่ได้

พระเยซูทรงตรัสถึง น้ำองุ่นใหม่ ถุงหนังใหม่  เพื่อจะบอกกับเราว่า  เราจะอยู่กับสิ่งที่จะพาเราไปด้วยสิ่งเก่าๆไม่ได้ อีกต่อไป

มัทธิว 9:17 17 และ​เขา​ไม่​เอา​น้ำ​องุ่น​หมัก​ใหม่ มา​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​เก่า ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​ถุง​หนัง​จะ​ขาด น้ำ​องุ่น​จะ​รั่ว ทั้ง​ถุง​หนัง​ก็​จะ​เสีย​ไป​ด้วย แต่​เขา​ย่อม​เอา​น้ำ​องุ่น​หมัก​ใหม่​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​ใหม่ แล้ว​ทั้ง​สอง​อย่าง​ก็​อยู่​ดี​ด้วย​กัน​ได้”

ถุงหนังสำหรับใส่น้ำองุ่น สำหรับการเดินทางไกล ของคนในยุคของพระเยซูคริสต์ที่เส้นทางคือทะเลทราย น้ำดื่มเป็นสิ่งหายาก  ถุงหนังจึงหมายถึงการเดินทาง  พาหนะของคนยุคนั้นคืออูฐ ทำให้สามารถเดินทางไกลได้ และถุงหนังบรรจุน้ำ มักจะทำมาจากกระเพาะอูฐ  สามารถเก็บน้ำได้มาก และขยายได้ เมื่อน้ำนั้นคือน้ำผลไม้ ผลองุ่น  ที่เมื่อเป็นน้ำองุ่นหมักใหม่ ใส่ในถุงหนังใหม่  พระเยซูยกคำเปรียบเทียบตอนนี้ เพื่อจะบ่งบอกถึงวิถีการดำเนินชีวิตคริสเตียน ที่เป็นเหมือนถุงหนังใหม่ ที่สามารถจะรับน้ำองุ่นใหม่ คือพระวิญญาณบริสุทธิ์

น้ำองุ่นหมักใหม่ คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงคุณค่า และมีคุณภาพ ไม่เคยเปลี่ยน  แต่ถุงหนัง เปลี่ยน ตามกาลเวลา ถุงหนังเก่าต้องทิ้งไป และเอาถุงหนังใหม่มาแทน  ชีวิตเก่าต้องทิ้งไป ต้องเป็นชีวิตใหม่มาแทน จึงจะเหมาะสมกับการดำเนินชีวิตไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเจ้าประทานให้กับผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์

พระคัมภีร์โคโลสี ได้กล่าวถึง ชีวิตเก่า ชีวิตใหม่ เพื่อให้เหมาะกับการดำเนินชีวิตคริสเตียน

โคโลสี 3:5-10 5 เหตุ​ฉะนั้น​จง​ประหาร​โลกีย​วิสัย​ใน​ตัว​ท่าน​เสีย มี​การ​ล่วง​ประเวณี การ​โสโครก ราคะ​ตัณหา ความ​ปรารถนา​ชั่ว และ​ความ​โลภ ซึ่ง​เป็น​การ​นับ​ถือ​รูป​เคารพ​6 เพราะ​สิ่ง​เหล่า​นี้ ​พระ​อาชญา​ของ​พระ​เจ้า​ก็​จะ​ลง​มา​7 ครั้ง​หนึ่ง​ท่าน​เคย​ประพฤติ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ด้วย ครั้ง​เมื่อ​ท่าน​ยัง​ดำรง​ชีวิต​อยู่​กับ​สิ่ง​เหล่า​นี้​8 แต่​บัดนี้ สารพัด​สิ่ง​เหล่า​นี้​ท่าน​จง​เปลื้อง​ทิ้ง​เสีย คือ​ความ​โกรธ ความ​ขัด​เคือง การ​คิด​ปอง​ร้าย การ​พูด​ให้​ร้าย คำพูด​หยาบ​โลน​9 อย่า​พูด​มุสา​ต่อ​กัน เพราะ​ว่า​ท่าน​ได้​ปลด​วิสัย​มนุษย์​เก่า กับ​การ​ปฏิบัติ​ของ​มนุษย์​นั้น​เสีย​แล้ว​10 และ​ได้​สวม​วิสัย​มนุษย์​ใหม่ ที่​กำลัง​ทรง​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ตาม​พระ​ฉาย​ของ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​สร้าง ให้​รู้จัก​พระ​เจ้า​

ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ในวิถีชีวิตคริสเตียนที่กำลังเดินทางตามเส้นเวลาเหมือนกับคนทั่วไป Chronos แต่เวลาของคริสเตียนจะมี Kairos เวลาของพระเจ้าอยู่บนเส้นเวลา 12 เดือน สี่สัปดาห์ หนึ่งวัน ยี่สิบสี่ชั่วโมง ความแตกต่างของคริสเตียนสำหรับการตั้งเป้าปีใหม่ ลาทีปีเก่า ควรจะเป็นการจัดการกับชีวิตเก่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตามหลักการของพระคัมภีร์ และนี่คือยานพาหนะที่จะพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางสุดทางได้

สมาชิกของคริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 จะเป็นเกลือให้กับสังคม เป็นแสงสว่างนำทางคนอีกมากมาย และเวลานี้ เรากำลังเคลื่อนไปอย่างรถไฟความเร็วสูง ขอให้ทุกคน กระโดดเข้าไปในรถไฟ และเคลื่อนไปด้วยกันกับเรา

สู่จุดหมายปลายทาง

กิจการ 1:8 8 แต่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้รับ​พระ​ราชทาน​ฤทธิ์​เดช เมื่อ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จะ​เสด็จ​มา​เหนือ​ท่าน และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​พยาน​ฝ่าย​เรา​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย แคว้น​สะมาเรีย และ​จนถึง​ที่สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก”

ดำเนินชีวิตในพระคริสต์  ดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ  จะนำเราไปสู่จุดหมายปลายทาง  ในนิยามของพระเยซูคริสต์ คือ ชีวิตที่เป็นพยานว่า พระเยซูทำอะไรในชีวิตของเรา มากขึ้นในปีหน้า 2020

หัวข้อปีหน้าของเรา คือ  ตรีเอกานุภาพกับคุณ  นั่นหมายความว่า พระเจ้าทั้งสามพระภาคจะนำเราเคลื่อนไป ดุจดังยานพาหนะอันทรงพลัง บริบูณ์อุดมด้วยฤทธ์เดช

โรม 8:31 31 ถ้า​เช่นนั้น​เรา​จะ​ว่า​อย่างไร ถ้า​พระ​เจ้า​ทรง​อยู่​ฝ่าย​เรา ใคร​จะ​ขัดขวาง​เรา​

By admin