“ชีวิตที่ปราศจากตำหนิ….เชื่อฟัง”

คำว่า เชื่อฟัง รากศัพท์ภาษาฮีบรู “ชามา” มีความหมายแปลว่า การฟังอย่างชาญฉลาด ฟังด้วยความสนใจ ฟังด้วยความเชื่อฟัง   ในพระคัมภีร์เดิม จากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ 28:1 1 “ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เชื่อ​ฟัง​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน และ​ระวัง​ที่​จะ​กระทำ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์​ซึ่ง​ข้าพเจ้า​บัญชา​ท่าน​ใน​วันนี้ ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​จะ​ทรง​ตั้ง​ท่าน​ไว้​ให้​สูง​กว่า​บรรดา​ประชาชาติ​ทั้ง​หลาย​ทั่ว​โลก​  “ถ้าท่านทั้งหลายเชื่อฟัง”  ใช้ซ้อนกันสองครั้ง  “ชามา ชามา” ฟังด้วยความฉลาด ฟังด้วยความฉลาด นั่นคือไม่ใช่ฟังความเข้าใจของตนเองอย่างเดียว แต่ฟังความเข้าใจจากพระเจ้าด้วย การฟังด้วยความเข้าใจ ต้องฟังซ้ำ ยากอบ 1:19 ดูก่อน​พี่​น้อง​ที่​รัก​ของ​ข้าพเจ้า จง​ทราบ​ข้อ​นี้ จง​ให้​ทุก​คน​ไว​ใน​การ​ฟัง ช้า​ใน​การ​พูด ช้า​ใน​การ​โกรธ​ การไวในการฟัง ไม่ได้หมายความว่า เป็นพวกหูไว จับคำพูดของคนมากระเดียด แต่การไวในฟัง คือการฟังอย่างฉลาด และการฟังอย่างฉลาดไม่ใช่ฟังแต่เสียงจากมนุษย์ แต่เป็นการฟังซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง คือการฟังเสียงของพระเจ้าย้ำ เรามักได้ยินคำตอบของคนที่แสดงความรำคาญการฟังคำเตือน ด้วยประโยคที่ว่า เออ ได้ยินแล้ว ไม่ต้องพูดซ้ำได้ไม๊  นั่นคือ คนที่ไม่ได้ฟังอย่างฉลาดแต่ข้าพเจ้าก็ไม่อยากให้คนพูดกลายเป็นคนพูดอะไรซ้ำๆ พูดมากเป็นน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง คือพูดอย่างไร้สาระ   พระคัมภีร์ยากอบไม่ได้ให้เราปฏิเสธที่จะฟังเสียงมนุษย์ แต่ต้องฟังเสียงมนุษย์ด้วยจิตวิเคราะห์  ในขณะวิเคราะห์ คำว่า   ช้า​ใน​การ​พูด คือฟังมากกว่าพูด​  นี่เป็นสิ่งที่ทำยากมาก สำหรับคนที่กำลังมีอคติ มีความลำเอียง ยากอบจึงได้กล่าวถึงความลำเอียงถูกจัดอยู่ในจำพวกกลุ่มเดียวกันกับการไม่เชื่อฟัง  ​ ยากอบ 3:17  แต่​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น​บริสุทธิ์​เป็น​ประการ​แรก แล้ว​จึง​เป็น​ความ​สงบ​สุข สุภาพ​และ​ว่า​ง่าย เปี่ยม​ด้วย​ความ​เมตตา​และ​ผล​ที่​ดี ไม่​ลำเอียง ไม่​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ เราจะเห็นที่นี่ว่า การลำเอียง ทำให้ไม่สามารถเป็นคนที่เชื่อฟังได้  ปัญญาจากเบื้องบนอันแรกคือ ความบริสุทธิ์ แล้วจึงเป็นความสงบสุข สุภาพและว่าง่าย คำว่า  “ว่าง่าย” ก็คือการเชื่อฟัง  ภาษากรีกแปลว่า เหมาะสำหรับการเชิญชวน Good for persuasion น่าจะตีความเข้าใจว่า เป็นคนที่เหมาะสำหรับการเชิญให้ทำดี  หนังสือสุภาษิตจะใช้บ่อยๆด้วยคำว่า ตักเตือน  การตักเตือนคือการเชิญชวนให้ทำดี แต่คนที่ปฏิเสธการตักเตือน คือคนที่ไม่ยอมฟังอย่างฉลาด ไม่ฟังเสียงของพระเจ้าที่มากับคำตักเตือน  พระธรรมสุภาษิตกล่าวถึงคนที่เหมาะกับไม่เหมาะะสำหรับการเชิญชวนให้ทำดีว่า คนประเภทนี้จะได้รับการตอบสนองหรือไม่ได้รับการตอบสนองจากพระเจ้าสุภาษิต 1:28-33 28 แล้ว​เขา​จะ​ทูล​เรา แต่​เรา​จะ​ไม่​ตอบ เขา​จะ​แสวงหา​เรา แต่​จะ​ไม่​พบ​เรา29 เพราะ​ว่า​เขา​เกลียด​ความ​รู้ และ​ไม่​เลือก​เอา​ความ​ยำเกรง​พระ​เจ้า 30 เขา​ไม่​รับ​คำแนะนำ​ของ​เรา​เลย แต่​กลับ​ดู​หมิ่น​คำ​ตักเตือน​ของ​เรา​ทั้งสิ้น 31 เพราะ​ฉะนั้น เขา​จะ​กิน​ผล​แห่ง​ทาง​ของ​เขา และ​อิ่ม​ด้วย​กลวิธี​ของ​เขา​เอง 32 เพราะ​คน​โง่​ถูก​ฆ่า ​ก็​ด้วย​การ​หัน​กลับ​จาก​ปัญญา​นั่นเอง และ​คน​โง่​ที่​หลง​เพลิดเพลิน​ก็​ถูก​ทำลาย 33แต่​บุคคล​ผู้ฟัง​เรา จะ​อยู่​อย่าง​ปลอดภัย เขา​จะ​อยู่​อย่าง​สุข​สงบ ปราศจาก​ความ​คิด​พรั่น​พรึง​ใน​ความ​ชั่ว​ร้าย”  คำว่า “ชามา” (การฟังอย่างฉลาด คือฟังเสียงของพระเจ้าถูกใช้ในหนังสือสุภาษิต เป็นเรื่องเดียวกันกับการไวในการฟัง ช้าในการพูด  คำถามก็คือว่า เรากำลังฟังแบบไหน และเรากำลังพูดอะไร  เมื่อวานมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ข้าพเจ้าไม่สามารถเตรียมเทศนาในวันนี้ได้ ความเหน็ดเหนื่อย ทำให้เราไม่มีแรงต้านกับความชั่วร้าย และทำให้เราทำบาปด้วยอารมณ์ ขอพระเจ้ายกโทษ ข้าพเจ้าทำผิดเรื่องคำพูด ไม่อยากอยู่บ้าน บ้านไม่น่าอยู่ ไม่อยากอยู่ร่วมกับคนในบ้าน ข้าพเจ้ารีบอาบน้ำ นอนแต่วัน  การนอนคือการปิดสวิทการฟังเสียงมนุษย์และเสียงตัวเองได้ดีที่สุด และตื่นเช้า เปิดสวิทใหม่ เพื่อฟังเสียงของพระเจ้า ข้าพเจ้าคิดอย่างคน คือจะเทศน์อย่างคนที่ต้องทำหน้าที่เทศน์ เทศน์ให้จบ หมดหน้าที่  แต่เสียงของพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า เจ้าต้องเทศน์อย่างคนที่ฟังเสียงของพระเจ้า มิใช่ฟังเสียงของตนเอง  มิฉะนั้น เจ้าจะสูญเสียพระสิริอย่างที่อาดัมและเอวาสูญเสีย มนุษย์คู่แรกสูญเสียพระสิริของพระเจ้าอย่างไร

1.การเชื่อฟัง…ได้เสื้อแห่งความชอบธรรม ปฐมกาล 3:6-11

6 เมื่อ​หญิง​นั้น​เห็น​ว่า ต้นไม้​นั้น​น่า​กิน และ​น่าดู​ด้วย ทั้ง​เป็น​ต้นไม้​ที่​มุ่ง​หมาย​จะ​ให้​เกิด​ปัญญา จึง​เ​ก็​บ​ผลไม้​นั้น​มา​กิน แล้ว​ส่ง​ให้​สามี​กิน​ด้วย เขา​ก็​กิน​7 ตา​ของ​เขา​ทั้ง​สอง​คน​ก็​สว่าง​ขึ้น จึง​สำนึก​ว่า​ตน​เปลือย​กาย​อยู่ ​ก็​เอา​ใบ​มะเดื่อ​มา​เย็บ​เป็น​เครื่อง​ปกปิด​ร่าง​ไว้8 เวลา​เย็น​วัน​นั้น เขา​ทั้ง​สอง​ได้​ยิน​เสียง​พระ​เจ้า​เสด็จ​ดำเนิน​อยู่​ใน​สวน ชาย​นั้น​กับ​ภรรยา​ก็​หลบ​ไป​ซ่อน​ตัว​อยู่​ใน​หมู่​ต้นไม้​ใน​สวน​นั้น ให้​พ้น​จาก​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​9 ​พระ​เจ้า​ทรง​เรียก​ชาย​นั้น​และ​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า “เจ้า​อยู่​ที่​ไหน” 10 ชาย​นั้น​ทูล​ว่า “ข้า​พระ​องค์​ได้​ยิน​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ​องค์​ใน​สวน​ก็​เกรง​กลัว เพราะ​ข้า​พระ​องค์​เปลือย​กาย​อยู่ จึง​ได้​ซ่อน​ตัว​เสีย”11 ​พระ​องค์​จึง​ตรัส​ว่า “ใคร​เล่า​บอก​เจ้า​ว่า​เจ้า​เปลือย​กาย เจ้า​กิน​ผลไม้​ที่​เรา​ห้าม​มิ​ให้​กิน​นั้น​แล้ว​หรือ” การไม่เชื่อฟังทำให้เกิดการสูญเสียพระสิริที่ห่อหุ้มชีวิต เมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงสวมพระฉายาของพระองค์ให้กับมนุษย์ พระฉายาที่เป็นพระสิริของพระเจ้าปกคลุมร่างกายของมนุษย์แทนการสวมใส่เสื้อผ้า พระสิริของพระเจ้ามีมากจนเป็นเสื้อคลุมกายของมนุษย์คู่แรกได้ แต่เมื่ออาดัมและเอวาไม่เชื่อฟัง พระสิริที่คลุมกายได้หายไป กลายเป็นความน่าอาย ความเปลือยกาย มีเรื่องเล่าของคนที่เคยเป็นสาวกซาตานระดับ Top Hundred หลังจากกลับใจมาเชื่อพระเจ้า เขาได้เปิดเผยว่า ในช่วงที่เขาเป็นสาวกซาตาน ซาตานได้ให้อำนาจแก่เขาที่จะมองเห็นคนที่ทำบาป มีสภาพเปลือยกาย แม้จะสวมใส่เสื้อผ้า เขารู้ว่า คนที่เปลือยกายเหล่านั้นคือเป้าหมายที่จะทำลายได้ง่าย และเขาก็เข้าทำลายด้วยอำนาจที่ซาตานได้ให้แก่เขา  ซึ่งดูเหมือนเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ความจริงมาจากการกระทำของเขา และเมื่อเขาเห็นใครไม่ได้เปลือยกาย นั่นคือคริสเตียนที่กลับใจใหม่ เป้าหมายของเขาก็คือทำให้คริสเตียนคนนั้นทำบาป เพื่อจะกลับมาเปลือยกายอีกครั้ง และก็ทำลาย คำถามก็คือว่า เรากำลังเป็นคริสเตียนที่เปลือยกายอยู่หรือเปล่า  ถ้าเราเปลือยกายในสายพระเนตรของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงหาทางช่วยเรา แต่ถ้าเราเปลือยกายในสายตาของสาวกของมารซาตาน คุณคือเป้าหมายของการทำลาย  หมือนกับพวกนักตกทอง ที่มองเห็นว่าใครกำลังโลภเขาจะหากินกับคนที่โลภ และคนที่โลภก็มักจะเป็นเหยื่อของนักตกทอง วันนี้ วิธีการจากตกทองกลายเป็นการลงทุน อย่างเช่นหุ้นยูฟันที่คนมากมายกำลังเป็นเหยื่อ เพราะหวังได้ผลตอบแทนกำไรที่มากจนไม่รู้สึกผิดปกติ เพราะความโลภ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ทุกอย่างต้องลงทุน ลงแรง ความรอดของเราทั้งหลายก็เช่นกัน เราได้มาฟรีๆ เพราะมีใครคนหนึ่งต้องตายแทนเรา เราได้เสื้อแห่งความชอบธรรมมาปกปิดความน่าอายของเรา เพราะพระเยซูได้หลั่งเลือดแทนเรา  วิวรณ์ 3:3-6  3 เหตุ​ฉะนั้น​เจ้า​จง​ระลึก​ว่า​เจ้า​ได้รับ​และ​ได้​ยิน​อะไร จง​กระทำ​ตาม​และ​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่ ถ้า​เจ้า​ไม่​เฝ้า​ระวัง เรา​จะ​มา​หา​เจ้า​เหมือน​อย่าง​ขโมย และ​เจ้า​จะ​ไม่​รู้​ว่า​เรา​จะ​มา​หา​เจ้า​เมื่อไร4 แต่​ก็​มี​พวก​เจ้า​สอง​สาม​คน​ที่​เมือง​ซาร์​ดิส ที่​ไม่ได้​กระทำ​ให้​เสื้อผ้า​ของ​ตน​มี​มลทิน และ​เขา​เหล่า​นั้น จะ​แต่งตัว​สี​ขาว​เดิน​ไป​กับ​เรา เพราะ​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​สมควร​แล้ว​5 ผู้ใด​มี​ชัย​ชนะ ผู้​นั้น​จะ​สวม​เสื้อ​สี​ขาว และ​เรา​จะ​ไม่​ลบ​ชื่อ​ผู้​นั้น​ออก​จาก​หนังสือ​แห่ง​ชีวิต เรา​จะ​รับรอง​ชื่อ​ผู้​นั้น​ต่อ​พระ​พักตร์​พระ​บิดา​ของ​เรา และ​ต่อ​หน้า​เหล่า​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​องค์6 ใคร​มี​หู​ก็​ให้​ฟัง​ข้อความ​ซึ่ง​พระ​วิญญาณ​ได้​ตรัส​ไว้​แก่​คริสตจักร​ทั้ง​หลาย​เถิด’วิวรณ์ 16:15 (​นี่​แน่ะ เรา​จะ​แอบ​ย่อง​มา​เหมือน​ขโมย ผู้​ที่​ตื่น​อยู่​และ​รักษา​เสื้อผ้า​ของ​ตน​ไว้​อย่าง​ดี​จะ​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​เขา​ไม่​ต้อง​เดิน​เปลือย​กาย​ให้​คน​ทั้ง​หลาย​เห็น​)​ การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์เจ้าทำให้มนุษย์ได้รับพระสิริของพระเจ้าที่สูญเสียไปเมื่อครั้งที่มนุษย์คู่แรกทำบาป ไม่เชื่อฟัง นี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงพระเยซูเป็นอาดัมคนที่สอง ที่นำการเชื่อฟังกลับมาก็คือการนำพระสิริของพระเจ้ากลับคืนมาสวมใส่ให้กับมนุษย์ที่เชื่อฟังอีกครั้ง โรม5:17 เพราะ​ว่า​ถ้า​โดย​การ​ละเมิด​ของ​คน​นั้น​คน​เดียว เป็น​เหตุ​ให้​ความ​ตาย​ครอบงำ​อยู่​โดย​คน​นั้น​คน​เดียว มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​รับ​พระ​กรุณา​อัน​ไพบูลย์ และ​รับ​ของ​ประทาน​คือ​ความ​ชอบธรรม​ก็​จะ​ดำรง​ชีวิต และ​ครอบ​ครอง​โดย​พระ​องค์​ผู้​เดียว คือ​พระ​เยซู​คริสต์​…..โรม. 5:19 เพราะ​ว่า​คน​เป็น​อัน​มาก​เป็น​คน​บาป เพราะ​คน​คน​เดียว​ที่​มิได้​เชื่อ​ฟัง​ฉัน​ใด คน​เป็น​อัน​มาก​ก็​เป็น​คน​ชอบธรรม เพราะ​พระ​องค์​ผู้​เดียว​ที่​ได้​ทรง​เชื่อ​ฟัง​ฉัน​นั้น​  วิวรณ์ 7:14 ….“คน​เหล่า​นี้​คือ​คน​ที่มา​จาก​ความ​ทุกข์​เวทนา​ครั้ง​ใหญ่ พวก​เขา​ได้​ชำระ​ล้าง​เสื้อผ้า​ของ​เขา​ใน​พระ​โลหิต​ของ​พระ​เมษโปดก จน​เสื้อผ้า​นั้น​ขาว​สะอาด พระเมษโปดกแปลว่า แกะของพระเจ้า หมายถึงพระเยซูคริสต์ พระเยซูคริสต์ทรงยอมเป็นแกะเครื่องบูชา สำหรับการไถ่บาป ทรงให้เสื้อผ้าใหม่ที่สะอาดแก่เรา หน้าที่ของเราคือรักษาเสื้อผ้าสีขาวนี้ไว้ด้วยการเชื่อฟัง เพราะเสื้อผ้าสีขาวนี้ เราได้มาจากการเชื่อฟังของพระเยซู  ฟิลิปปี2:8 และ​เมื่อ​ทรง​ปรากฏ​พระ​องค์​ใน​สภาพ​มนุษย์​แล้ว ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ถ่อม​พระ​องค์​ลง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จนถึง​ความ​มรณา กระทั่ง​ความ​มรณา​ที่​กางเขน​  พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างของการเชื่อฟัง ทำให้คนมากมายได้รับเสื้อแห่งความชอบธรรม แต่สำหรับเราทั้งหลายที่จะรักษาเสื้อผ้าที่ได้รับคือการเชื่อฟังอย่างพระเยซูที่อ.เปาโลได้กล่าวไว้ในหนังสือโรม8:36-37  36 ตาม​ที่​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า เพราะ​เห็น​แก่​พระ​องค์ ข้า​พระ​องค์​จึง​ถูก​ประหาร​วัน​ยัง​ค่ำ และ​นับว่า​เป็น​แกะ​สำหรับ​จะ​เอา​ไป​ฆ่า 37 แต่​ว่า​ใน​เหตุการณ์​ทั้ง​ปวง​เหล่า​นี้ เรา​มี​ชัย​เหลือล้น​โดย​พระ​องค์​ผู้​ได้​ทรง​รัก​เรา​ทั้ง​หลาย​  การเชื่อฟังของเราแตกต่างจากพระเยซู เพราะการยอมเชื่อฟังของเราเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง เรากำลังรักษาเสื้อผ้าสีขาวของเราเองเอาไว้จนถึงวันที่พระเยซูเสด็จมา ให้เสื้อสีขาวนี้ปราศจากตำหนิ พฤติกรรมที่น่าอายที่แท้จริง ก็คือพฤติกรรมที่ทำให้เราเปลือยกายในสายตาของพระเจ้า ผู้ทรงมองเห็นเราทะลุปรุโปร่ง คนที่ซ่อนสิ่งที่น่าอายของตน ไม่นำมาถึงการสารภาพบาปและกลับใจใหม่ คือคนที่เปลือยกาย แต่คนที่โปร่งใส Transparency ไม่ได้ซ่อนสิ่งที่น่าอาย จะรับได้กับคำเชิญชวนให้ปรับปรุงแก้ไข เปลี่ยนแปลง นี่แหล่ะคือชีวิตที่สวมเสื้อแห่งความชอบธรรม เสื้อสีขาวปราศจากตำหนิที่แท้จริง  หากเราสังเกตแนวโน้มของคนในยุคสมัยของเรา เราจะพบว่า ความเข้มข้นของการเชื่อฟังของคนสมัยนี้เจือจางลงไป ไม่มีการใส่ใจกับการเชื่อฟัง มีแต่จะทำอะไรตามใจตนเอง  ยากมากสำหรับการเชิญชวนให้ปรับปรุงแก้ไข สำหรับคนที่ติดอยู่กับกระแสโซเชียล กระแสทีวี กระแสค่านิยมของโลกนี้ คุณลองไปเชิญชวนให้คนเหล่านี้ฟังคำตักเตือน ฟังคำสอน คุณจะถูกคนพวกนี้ตะคอก ด่ากลับ และชวนทำสงครามประสาทด้วย คุณจะหัวเสีย และกลายเป็นติดเชื้อของคนพวกนี้ เหมือนกับหนังเรื่องผีดิบซอมบี้ ที่กัดใคร คนที่ถูกกัดนั้นก็กลายเป็นซอมบี้ไปด้วย  นั่นคือติดเชื้อของการไม่เชื่อฟัง

2.การไม่เชื่อฟัง…สูญเสียทุกอย่าง  2 เธสะโลนิกา 3:10-15

10 แม้​เมื่อ​เรา​อยู่​กับ​พวก​ท่าน เรา​ก็​ได้​กำชับ​อย่าง​นี้​ว่า ถ้า​ผู้ใด​ไม่​ยอม​ทำงาน ​ก็​อย่า​ให้​เขา​กิน​11 เพราะ​เรา​ได้​ยิน​ว่า มี​บาง​คน​ใน​พวก​ท่าน​อยู่​อย่าง​เกียจ​คร้าน ไม่​ทำงาน​อะไร​เลย แต่​ชอบ​ยุ่ง​กับ​ธุระ​ของ​คน​อื่น​12 เรา​กำชับ​และ​เตือนสติ​คน​เช่นนั้น​ใน​พระ​นาม​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า​ว่า ให้​เขา​ทำงาน​ด้วย​ใจ​สงบ​และ​หา​กิน​เอง​13 ดูก่อน​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ท่าน​อย่า​อ่อน​ใจ​ที่​จะ​กระทำ​การ​ดี​เลย 14 ถ้า​ผู้ใด​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ถ้อยคำ​ของ​เรา​ใน​จดหมาย​ฉบับ​นี้ จง​จดจำ​คน​นั้น​ไว้ อย่า​สมาคม​กับ​เขา​เลย​เพื่อ​เขา​จะ​ได้​อาย​15 อย่า​ถือ​ว่า​เขา​เป็น​ศัตรู แต่​จง​เตือนสติ​เขา​ฉัน​พี่​น้อง​ คนที่ไม่เชื่อฟัง คือคนที่น่าอาย เปลือยกายอยู่แล้ว พฤติกรรมของคนไม่เชื่อฟัง จะแสดงออกถึงการไม่แก้ไขไม่เปลี่ยนแปลง ยังทำเหมือนเดิม คือเกียจคร้าน ไม่ยอมทำงาน ชอบยุ่งกับธุระของคนอื่นก็คือ ชอบเผือก ฟังไม่ได้ศัพท์ ก็โต้ตอบกันอย่างเผ็ดร้อนดุเดือด อย่าสมาคม คือคำแนะนำให้อย่าเชื่อฟังคำพูดของคนเหล่านั้น อย่าใส่ใจ อย่าสนใจ เพื่อให้เขาได้อาย และเพื่อเราจะไม่เปลือยกายอย่างคนไม่เชื่อฟังทำ 1ทิโมธี 4:1-2  1 ​พระ​วิญญาณ​ได้​ตรัส​ไว้​อย่าง​ชัด​แจ้ง​ว่า ต่อไป​ภาย​หน้า​จะ​มี​บาง​คน​ละ​ทิ้ง​ความ​เชื่อ โดย​หัน​ไป​เชื่อ​ฟัง​วิญญาณ​ที่​ล่อลวง และ​ฟัง​คำ​สอน​ของ​พวก​ผี​ปีศาจ​2 ซึ่ง​มา​จาก​การ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ของ​คน​ที่​โกหก คือ​คน​ที่​จิตสำนึก​เป็น​ทาส​ของ​มาร​ เรากลับมาที่หนังสือยากอบอีกครั้ง ยากอบ 3:17  แต่​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น​บริสุทธิ์​เป็น​ประการ​แรก แล้ว​จึง​เป็น​ความ​สงบ​สุข สุภาพ​และ​ว่า​ง่าย เปี่ยม​ด้วย​ความ​เมตตา​และ​ผล​ที่​ดี ไม่​ลำเอียง ไม่​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด หน้าซื่อใจคดอยู่ในกลุ่มเดียวกับความลำเอียง และตรงกันข้ามกับการว่าง่าย คือการเชื่อฟัง ดังนั้น คนที่ไม่เชื่อฟัง ที่หนังสือ1ทิโมธีกล่าวถึงตอนนี้ คือคนจำพวกที่ละทิ้งความเชื่อ นั่นหมายถึงคริสเตียนที่เคยมีความเชื่อ แต่ได้ละทิ้งความเชื่อไปเชื่อฟังใคร เชื่อ​ฟัง​วิญญาณ​ที่​ล่อลวง และ​ฟัง​คำ​สอน​ของ​พวก​ผี​ปีศาจ อะไรที่มากับวิญญาณที่ล่อลวงและคำสอนของพวกผีปีศาจ คำว่า ล่อลวง และผี คนไทยเรามีคำว่า ผีหลอก  ผีหลอกไม่มาแหกอกควักไส้อย่างในหนังผี วิญญาณที่อยู่เบื้องหลังที่หลอกลวงในยคของเราทุกวันนี้ที่มีอิทธิพลมากที่สุด ได้แก่ ละคร (โลกมายา) มายาแปลว่า อะไร  N. illusion syn:{สิ่งลวงตาลวงใจ}{การหลอกลวง}{การลวง}{ความเข้าใจผิด โลกมายาตอนนี้เข้าไปทุกบ้าน ผ่านทางสื่อทีวี มีคนถามข้าพเจ้าว่า ดูทีวีดูละครทำลายสมองอย่างไร ข้าพเจ้าตอบว่า คือการปล่อยให้สมองถูกยัดเยียดด้วยสิ่งที่เป็นสิ่งหลอกลวง สิ่งที่ไม่ใช่ความจริง เราได้เห็นการต่อสู้กันทางการเมืองด้วยการยึดเอาทีวีเป็นสื่อที่บังคับให้คนดูแต่สิ่งที่ต้องการให้ดู รู้ในสิ่งที่ต้องการให้รู้แค่นั้น  พระคัมภีร์บอกเราให้อย่าสมาคมกับคนที่ไม่เชื่อฟัง เพราะคนเหล่านี้หันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังผีปีศาจ คนเหล่านี้จะมีแต่คำพูดและพฤติกรรมที่มาจากวิญญาณที่ไม่เชื่อฟัง และมาจากผีปีศาจ มิได้มาจากพระเจ้า คนที่ไม่เชื่อฟังเหล่านี้ทำตัวเป็นเหมือนคนที่เชื่อพระเจ้า ยากอบ 2:19 ท่าน​เชื่อ​ว่า​พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​หนึ่ง นั่น​ก็​ดี​อยู่​แล้ว แม้​พวก​ปีศาจ​ก็​เชื่อ และ​กลัว​จน​ตัว​สั่น​ ยากอบ 3:15 ปัญญา​เช่นนี้ ไม่​เหมือน​ปัญญา​ที่มา​จาก​เบื้อง​บน แต่​เป็น​ปัญญา​อย่าง​โลก​และ​เป็น​โลกีย​วิสัย และ​เป็น​เช่น​ปีศาจ​  การอย่าสมาคมกับคนที่ไม่เชื่อฟัง คนแรก คือ คนที่อยู่ในโลกมายา อยู่กับทีวีมาก ผลของชีวิตคนเหล่านี้ ฉุนเฉียว อารมณ์ขึ้นง่ายเหมือนคนติดยาเสพติด ที่จะลงแดงถ้าไม่ได้ดูทีวี  เรารังเกียจคนที่ติดยาเสพติด ขอให้เรารังเกียจคนที่ดูทีวี  มีผู้ชายคนหนึ่งมาเข้ากลุ่มที่ศรีธัญญาครั้งแรก เขาได้พูดว่า อย่าติดยาเสพติดเหมือนกับเขาที่ติด สูญเสียทุกอย่าง ตกงาน ไม่มีเงิน และต้องมาศรีธัญญาเพราะป่วยจากยาเสพติดที่ทำลายสมอง ข้าพเจ้าขอบอกกับพี่น้องว่า การติดทีวี ร้ายแรงกว่าติดยาเสพติดหลายเท่า เพราะคุณจะสูญเสียการเชื่อฟังพระเจ้า สูญเสียพระเยซูคริสต์ เพราะพระเยซูคริสต์เป็นความจริง ในขณะที่คุณดูทีวี คุณกำลังอยู่ในการหลอกลวง โลกมายา การสูญเสียพระเยซู คือการสูญเสียทุกอย่าง วิวรณ์ 22:14-17 14 คน​ทั้ง​หลาย​ที่​ชำระ​เสื้อผ้า​ของ​ตน​ก็​เป็น​สุข เพื่อ​ว่า​เขา​จะ​ได้​มี​สิทธิ์​ใน​ต้นไม้​แห่ง​ชีวิต และ​เพื่อ​เขา​จะ​ได้​เข้า​ไป​ใน​นคร​นั้น​โดย​ทาง​ประตู​15 ภายนอก​นั้น​มี​สุนัข คน​ใช้​เวท​มนตร์ คน​ล่วง​ประเวณี คน​ฆ่า​มนุษย์ คน​ไหว้​รูป​เคารพ ทุก​คน​ที่​รัก​การ​มุสา​และ​ประพฤติ​ตาม 16 “เรา​คือ​เยซู​ผู้ใช้​ให้​ทูตสวรรค์​ของ​เรา ไป​เป็น​พยาน​สำแดง​เหตุการณ์​เหล่า​นี้​แก่​ท่าน เพื่อ​คริสตจักร​ทั้ง​หลาย เรา​เป็น​เชื้อ​สาย​ของ​ดาวิด และ​เป็น​ดาว​ประจำ​รุ่ง​อัน​สุกใส” 17 ​พระ​วิญญาณ​และ​เจ้าสาว​ตรัส​ว่า “เชิญ​มา​เถิด” และ​ให้​ผู้​ที่​ได้​ยิน​คำ​กล่าว​ว่า “เชิญ​มา​เถิด” และ​ให้​ผู้​ที่​กระหาย​เข้า​มา ผู้ใด​มี​ใจ​ปรารถนา ​ก็​ให้​ผู้​นั้น​มา​รับ​น้ำ​แห่ง​ชีวิต โดย​ไม่​ต้อง​เสีย​อะไร​เลย มีอะไรที่ทำให้เรากำลังอยู่ในโลกที่หลอกลวง การหลอกตัวเอง ว่ามั่นคงดีแล้ว แต่ระวังเกรงว่าจะล้ม จงออกจากการโกหก การไม่เชื่อฟังความจริง คือการโกหกหลอกลวง ที่จะทำให้สุดท้ายต้องอยู่ภายนอกประตูที่มีต้นไม้แห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสงวนมิให้คนที่ไม่เชื่อฟังได้กิน และต้องอยู่ภายนอกร่วมกับคนที่มีจิตสำนึกเป็นทาสของมาร นรกไม่ได้ถูกสร้างไว้สำหรับมนุษย์ แต่สำหรับมาร และสมุนของมัน และคนที่เป็นทาสของมาร วิวรณ์ 21:8 8 แต่​คน​ขลาด คน​ไม่​เชื่อ คน​ที่​น่า​เกลียด​น่า​ชัง คน​ที่​ฆ่า​มนุษย์ คน​ล่วง​ประเวณี คน​ใช้​เวท​มนตร์ คน​ไหว้​รูป​เคารพ และ​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​พูด​มุสา​นั้น มรดก​ของ​เขา​อยู่​ที่​ใน​บึง​ไฟ​และ​กำมะถัน​ที่​กำลัง​ไหม้​อยู่​นั้น นั่น​คือ​ความ​ตาย​ครั้ง​ที่​สอง”

“ชีวิตที่ปราศจากตำหนิ….เชื่อฟัง”

1.การเชื่อฟัง…ได้เสื้อแห่งความชอบธรรม

2.การไม่เชื่อฟัง…สูญเสียทุกอย่าง 

By admin