“ระวัง….คุกในจิตใจ”
เอเฟซัส 4:1-6 1 เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าผู้เป็นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนพวกท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับการทรงเรียกมานั้น2 คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก3 จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน4 มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนอย่างที่ท่านได้รับการทรงเรียกให้มาถึงความหวังเดียวในการทรงเรียกพวกท่านนั้น5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว6 พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของทุกคน พระองค์ทรงมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง ทรงทำการผ่านสรรพสิ่งและทรงอยู่ในทุกคน มีเพลงๆหนึ่งที่ร้องเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อเพลง Peace สันติภาพ ได้กล่าวถึง สงครามไม่เคยนำสันติภาพที่แท้จริงมาให้ มีแต่การนำมาซึ่งสงครามอีกรูปแบบหนึ่ง สันติภาพเท่านั้นที่จะนำสันติภาพมา พระเยซูคริสต์เจ้าได้ตรัสว่า ยอห์น 14:27 27 เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย คำว่า สันติสุข ที่พระเยซูตรัสตอนนี้ ก็คือคำเดียวกันกับคำว่า สันติภาพ ที่เปาโลผู้เขียนหนังสือเอเฟซัสได้ยกเรื่องการผูกพันกันของคริสเตียน แม้ว่า ฝ่ายที่ต่อต้านเปาโล จะจับเปาโลขังคุก จองจำให้เป็นนักโทษ แต่เปาโลก็ยังคงมีสันติภาพ หรือสันติสุข และได้เขียนจดหมายจากในคุกออกมาเพื่อจะบอกคนนอกคุกว่า คุกที่ขังเปาโลไว้ ไม่สามารถทำลายสันติภาพ หรือสันติสุขที่พระเยซูได้มอบไว้ให้เปาโลได้ ในสภาวะการณ์ของคนในยุคของเรา มีหลายอย่างที่บีบคั้น ให้รู้สึกเหมือนติดคุก ไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบ ภาระที่หนักหน่วง จนเหมือนกับแอกที่ต้องแบกเอาไว้บนบ่าที่แทบจะทนไม่ไหว จะขว้างทิ้ง ก็เหมือนกับภาษิตที่เรียกว่า เหวี่ยงงูไม่พ้นคอ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการดลใจให้เปาโลเขียนจดหมายออกมาจากนอกคุกเพื่อหนุนใจคนที่ดูหมือนไม่ได้ติดคุก แต่กลับไม่มีสันติภาพ หรือสันติสุข ราวกับติดคุกเสียอีก ประโยคที่เปาโลใช้หนุนใจคนนอกคุก 2 คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก3 จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน เป็นอะไรที่ดูแล้วแปลกๆ ตลกๆ ในมุมมองของคนที่มีเสรีภาพ แต่กลับไม่มีเสรีภาพ แต่คนในคุกที่ไม่มีเสรีภาพ แต่กลับมีเสรีภาพของจิตใจอย่างเท้จริง เรื่องที่ทำให้คนเหมือนติดคุกในจิตใจ ก็คือเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ดี ที่คนส่วนใหญ่คิดว่า การลดหรือตัดความสัมพันธ์คือวิธีแก้ปัญหา แต่พระคัมภีร์กลับเตือนว่า จงพยายามรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ ชนิดที่เหนียวแน่นให้มากที่สุด คือผูกพันกันทางพระวิญญาณ (ทางอื่นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้) ดังนั้น คริสเตียนเป็นมนุษย์ฝ่ายวิญญาณที่ต้องผูกพันกันในฝ่ายวิญญาณเท่านั้น จึงจะทำสำเร็จ ขอพระเจ้าทรงเปิดตาใจให้เราทั้งหลายได้มองเห็นความจริงเรื่องนี้และพึ่งพาพระวิญญาณของพระเจ้าตลอดเวลา เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์