“พระเจ้าผู้เสริมกำลัง”
ฟิลิปปี 4:11-13 11 ข้าพเจ้าไม่ได้บ่นถึงเรื่องความขัดสน เพราะข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะพอใจอยู่อย่างนั้น12 ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน13 ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า
สวัสดีค่ะ พี่น้องที่รักในพระคริสต์ นับวันเวลาและประสบการณ์ของพวกเราในวันนี้ ถือว่า เรากำลังผ่านช่วงวิกฤตโควิดมาได้จะพ้นครึ่งทางแล้ว อดทนกันอีกนิด แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปได้ทั้งหมด ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า เราทุกคนจะปลอดภัย รอดพ้นจากความเลวร้ายของเชื้อโรคนี้ ขอให้ถือว่า เรากำลังวิ่งแข่ง มุ่งสู่เส้นชัย พระคัมภีร์ที่หยิบยกมาในวันนี้ เป็นเรื่องราวของอ.เปาโลที่กำลังหนุนใจคนที่อยู่นอกคุก กำลังเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายของการข่มเหงความเชื่อในพระเยซูคริสต์ ให้ดูท่านเป็นแบบอย่างของการผจญทุกสิ่งได้ ด้วยวิธีคิดและการปรับตัวให้อยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์ แม้ว่าอ.เปาโลจะถูกจับติดคุกเพราะถูกกล่าวหาให้ร้าย แต่จิตใจของท่านเต็มไปด้วยพลังชีวิต พลังฝ่ายวิญญาณที่จะให้คำหนุนใจและเป็นแบบอย่างแก่คนอื่น
วันนี้ของเราทุกคนที่อยู่ในสภาพที่เรียกว่ กักตัว (เหมือนติดคุกแบบวิถีปกติใหม่) เพื่อให้เราปลอดภัยจากเชื้อโควิด19 ทุกคนต่างมีความเสี่ยง(โอกาสที่จะติดเชื้อได้ทั้งสิ้น) เป็นเหตุให้ทำอะไรไม่ได้อย่างที่อยากจะทำ(มาก) ขาดสภาพคล่องในหลายๆด้าน หลายคนเครียด หลายคนรับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ในด้านอาชีพการงาน ยิ่งสำหรับคริสตจักรแล้ว ถูกกำหนดให้ทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 20 คน (ดีกว่าบางประเทศจำกัดเพียง 5 คน) คริสตจักรจำเป็นต้องปิดห้องประชุมไปโดยปริยาย ขอบคุณพระเจ้าที่เรายังสามารถมีนมัสการฟังคำเทศนา พบกันทางออนไลน์ และนี่คือส่วนหนึ่งที่คริสตจักรในยุคโควิดนี้ สามารถผจญกับทุกสิ่งได้ เราเชื่อแน่ว่า สปอนเซอร์ของเราคือพระเจ้าผู้ทรงเสริมกำลังเรา และถ้าพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราอย่างนี้ ต่อให้สิบโควิด ก็ไม่สามารถที่จะหยุดคริสตจักรของพระเยซูคริสต์เจ้าซึ่งก็คือพี่น้องทั้งหลาย อาเมนพร้อมกันดังๆ อาเมนๆๆๆๆๆๆ